fbpx

เฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์ย่อย JN.1

เฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ JN.1 หลังพบในหลายประเทศปะปนในน้ำเสีย อาการไม่แตกต่าง แต่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันดีขึ้น

สธ.ยืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิดมากขึ้น แต่ยังไม่มีนัยสำคัญ

สธ.แจงสถานการณ์โควิด ยอมรับติดเชื้อมากขึ้นแต่ยังไม่มีนัยสำคัญ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบคนใส่ท่อช่วยหายใจ สะสมไม่ถึง 20 คน ส่วน XBB.1.16 หลบภูมิ ติดง่าย เป็นเรื่องปกติของไวรัสกลายพันธุ์ และ WHO ยังให้เป็นสายพันธุ์เฝ้าระวัง ยันยารักษามีเพียงพอทุกชนิด และยังใช้ได้ปกติ บ่ายนี้เตรียมทำความเข้าใจกับแพทย์ และ 1 พ.ค.นี้ เตรียมฉีดวัคซีนโควิดคู่กับไข้หวัดใหญ่ เหมือนโรคประจำถิ่น 1 ปีฉีด 1 ครั้ง

อนามัยโลกเผยยังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน

เจนีวา 5 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยังไม่มีรายงานพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน แต่ระบุว่าจีนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 น้อยเกินจริงทั้งที่กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อโควิด นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เผยเมื่อวันพุธตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ข้อมูลจากจีนชี้ว่ายังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน และคิดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิดที่จีนรายงานนั้นเป็นจำนวนที่น้อยเกินจริงทั้งที่จีนกำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคโควิดจนทำให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและแผนกผู้ป่วยหนักเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า องค์การอนามัยโลกรู้สึกวิตกกังวลถึงความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคโควิดในจีน และได้เน้นย้ำกับจีนถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และผู้เสียชีวิต ทั้งยังระบุว่า องค์การอนามัยโลกจะเร่งประสานงานกับจีนเพื่อสืบค้นข้อมูลผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดให้ได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอมากขึ้น ก่อนหน้านี้ หลายประเทศทั่วโลกออกมาแสดงความวิตกกังวลถึงความโปร่งใสของจีนในการรายงานตัวเลขและสถานการณ์ของโรคโควิดในประเทศ เช่น ยอดผู้เสียชีวิตที่เป็นเลขตัวเดียว ทั้งที่มีรายงานว่าโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวและมีการจัดงานศพที่คาดว่าเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดมากขึ้นนับตั้งแต่จีนยกเลิกนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์. -สำนักข่าวไทย

ผู้ป่วยโควิดเดลตาครอนรายแรกในไทย อาการไม่รุนแรง แนะฉีด 4 เข็ม

กรมควบคุมโรค เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) ที่ตรวจพบรายแรกในไทย อาการไม่รุนแรง แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน อย่างน้อย 4 เข็ม ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต

กรมวิทย์ฯ เผยโควิดสายพันธุ์ BA.4-BA.5 ระบาดเพิ่ม-กทม.ติดสูงสุด

แพทย์ยังไม่สรุปว่าสายพันธุ์ BA.4-BA.5 มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม ต้องรอโรงพยาบาลส่งตัวอย่างคนไข้ที่ติดมาให้ตรวจเพิ่มเติม

ม.ออกซ์ฟอร์ดพบเชื้อ HIV สายพันธุ์ใหม่ในเนเธอร์แลนด์

ลอนดอน 4 ก.พ. – คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษค้นพบเชื้อไวรัสเอชไอวีสายพันธุ์รุนแรงมากที่กำลังแพร่กระจายอย่างเงียบ ๆ ในเนเธอร์แลนด์มาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่การระบาดของเชื้อดังกล่าวไม่น่าวิตกกังวล เนื่องจากวิทยาการรักษาสมัยใหม่ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพต้านเชื้อดังกล่าวได้ ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ‘ไซเอินส์’ (Science) ระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเอชไอวีสายพันธุ์วีบี (VB variant) มีปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดสูงกว่าผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์อื่น ๆ ราว 3.5-5.5 เท่า และยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดี ผลวิจัยชี้ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์วีบีสามารถฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันและใช้ชีวิตได้ต่อไปหลังเข้ารับการรักษาเช่นเดียวผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์อื่น ๆ ขณะที่ ดร. คริส วายแมนต์ นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเป็นหัวหน้าคณะผู้เขียนวิจัยในครั้งนี้ กล่าวว่า เชื้อเอชไอวีสายพันธุ์วีบียังไม่มีความน่าวิตกกังวล ผลวิจัยดังกล่าวยังระบุว่า เชื้อเอชไอวีสายพันธุ์วีบีแพร่ระบาดมากขึ้นในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 1980 ถึงช่วงต้นทศวรรษหลังปี 1990 ในเนเธอร์แลนด์ และเริ่มพบการระบาดลดลงในปี 2010 คณะนักวิจัยเชื่อว่าการระบาดของเชื้อเอชไอวีในเนเธอร์แลนด์จะไม่ทำให้เกิดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่ เนื่องจากวิทยาการรักษาสมัยใหม่ยังคงมีประสิทธิภาพต่อเชื้อดังกล่าวได้ดี รวมถึงการตรวจพบเชื้อและการเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ของผู้ป่วย ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าวระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์วีบีในเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด 109 คน โดยมีผู้ป่วยเพียง 4 คนที่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็เป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตกเช่นเดียวกับเนเธอร์แลนด์.-สำนักข่าวไทย

เจออีกโควิดสายพันธุ์ใหม่ หลบภูมิคุ้มกันได้ดีเท่าโอไมครอน

พบโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1640.1 ที่ฝรั่งเศส “หมอธีระวัฒน์” จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุเป็นไวรัสที่หลบภูมิคุ้มกันได้ดีเท่าโอไมครอน

นายกฯ สั่งเฝ้าระวังการเดินทางช่วงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี มอบหน่วยงานทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม ท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ในแอฟริกาใต้ เฝ้าระวังการเดินทางช่วงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว  

สหรัฐห้ามนักเดินทางจาก 8 ชาติแอฟริกาเข้าประเทศ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะห้ามนักเดินทางเกือบทั้งหมดที่มาจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าประเทศตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธ์ุใหม่ ที่สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วในแอฟริกาใต้

กรมวิทย์ฯ ยันยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ใหม่

สำนักข่าวไทย 31 ส.ค.- กรมวิทย์ฯ ยันยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ใหม่ C.1.2 ในไทย ขณะที่ศูนย์จีโนม รามาธิบดีแจงทั้ง WHO และ CDC ยันไม่ได้จัดลำดับความรุนแรงของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงกรณีมีการแผยแพร่ข้อมูลถึงการค้นพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ C.1.2 ซึ่งกลายพันธุ์มากกว่าทุกสายพันธุ์เกือบ 2 เท่า พบในประเทศแอฟริกาใต้กว่าครึ่งประเทศและแพร่ไปอีก 7 ประเทศทั้งอังกฤษ จีน นิวซีแลนด์ โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ คองโกและเมอริเชียส ว่า จากข้อมูลของ GISAID (จีเสด) ดูตำแหน่งการกลายพันธุ์ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะส่งผลต่ออาการรุนแรงหลังรับเชื้อมากน้อยแค่ไหน ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกมากนัก เพียงแต่ดูจากรหัสพันธุกรรมที่เป็นคาดเดาได้บ้าง จึงมีความวิตกว่าจะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นหรือไม่ คงต้องพิจารณาองค์ประกอบปัจจัยต่างๆ รวมถึงการระบาดเป็นอย่างไร และตอนนี้ องค์การอนามัยโลก และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกาหรือ CDC ยังไม่ได้ยืนยันความรุนแรงจนจัดลำดับความสำคัญกับสายพันธุ์นี้ อย่างไรก็ตามสายพันธุ์แอฟริกาใต้ไม่ค่อยระบาดมาถึงไทย จึงยังไม่มีอะไรบ่งชี้น่ากังวลใจ เพียงแต่เฝ้าจับตา ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ กล่าวด้วยว่า […]

1 2 3 7
...