“อนุทิน” สั่ง อภ.ผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่ม

สธ.6ก.พ.-“อนุทิน” เตรียมขอหน้ากากอนามัยองค์การเภสัชกรรม 1 ล้านชิ้นมาแจกคนเสี่ยง แต่ขอเวลาวางหลักเกณฑ์ เชื่อใช้หลักเศรษฐศาสตร์เพิ่มการผลิตหน้ากาก ควบคุมอุปสงค์อุปทาน ความต้องการหน้ากากอนามัย ราคาสูงคลี่คลาย ส่วนการประชุมหารือใน รพ.เอกชน เพื่อหวังควบคุมโรค เนื่องจากพบ ร้อยละ 40 ของผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง รักษาที่รพ.เอกชน 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมชี้แจงแนวทางการวินิจฉัย การเฝ้าระวัง และการส่งต่อผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า หลังจากเกิดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เตรียมใช้หลักอุปสงค์อุปทานมาใช้ เพื่อลดความขาดแคลน หากมีการผลิตเพิ่มจนมาพอความต้องการก็ลดลง ความขาดแคลนก็ไม่มีการโก่งราคาก็ไม่พบ จึงได้สั่งให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตเพิ่ม และให้นำ


หน้ากากอนามัย 1ล้านชิ้น มามอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำมามอบให้กับผู้ขาดแคลน โดยต้องวางหลักเกณฑ์การการแจกหน้ากากอนามัย เพื่อให้ได้เพียงพอในกลุ่มคนเสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องใช้  รายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังไม่กำหนด 

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในการประชุมหารือร่วมกับสถานพยาบาลเอกชน เพื่อควบคุมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากร้อยละ 40  ของผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังและมีการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมาจากโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งขณะนี้มีแนวคิดให้โรงพยาบาลเอกชนแยกห้องตรวจไข้หวัด ออกจากห้องตรวจโรคอื่นๆ เพื่อป้องกันการปะปน และเป็นส่วนตัวในการคัดกรองโรค พร้อมเพิ่มห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจยืนยันเชื้อให้กับโรงพยาบาลเอกชน จากเดิมมีแค่ของกรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ และรพ.จุฬาลงกรณ์ มาเป็นโรงพยาบาลรัฐ สังกัดมหาวิทยาลัยเพิ่มอีก 1 แห่งหรือดึงความร่วมมือจากห้องปฏิบัติการเอกชนที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับมาร่วมตรวจ แต่ต้องย้ำเรื่องของข้อมูลผู้ป่วย ว่าจะต้องไม่เปิดเผย การรายงานต้องให้กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น  


นพ.ธเรศ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวในการตรวจเฝ้าระวังในประชาชนทั่วไป จากการติดเชื้อโคโรนา ขอให้เน้นในกลุ่มเสี่ยง เพิ่มไม่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นในกลุ่มผู้ที่ทำงานสัมผัสใกล้ชิดคนต่างชาติ หรือทำงานระบบขนส่งด้วย เพื่อการเฝ้าระวังที่ครอบคลุม -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่