รับศพนายช่างโยธาถูกเพื่อนบ้านพุ่งชนดับ

ปทุมธานี 26 ม.ค.-ครอบครัวเดินทางรับศพนายช่างโยธาที่ถูกเพื่อนบ้านขับรถพุ่งชนเสียชีวิตหน้าบ้าน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งการเร่งติดตามจับกุมเพื่อนบ้านโหดรายนี้ เชื่อตามตัวได้แน่นอน ขอเวลาทำงาน


นางปราณกมล รัศมี อายุ 44 ปี ภรรยา พร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อรับศพนายสุพรรณ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี นายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท ที่ถูกเพื่อนบ้านขับรถเก๋งพุ่งชนจนเสียชีวิตหน้าบ้านพัก ภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดช่วงเช้าวานนี้ 


โดยนางปราณกมล ได้เซ็นเอกสาร ก่อนเจ้าหน้าที่ที่นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนางปราณกมล เป็นผู้ถือถาพถ่ายสามี   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นร่างของนายสุพรรณ ถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลา 6 วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีกำหนดสวดอภิธรรม 3 วัน โดยมีเพื่อนร่วมงานของนายสุพรรณ ผู้ตาย และเพื่อนร่วมงานของนางปานกมล ภรรยา มาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า อย่างไรก็ตาม ภรรยาและบุตรสาวนายไพบูลย์ ผู้ก่อเหตุ มาร่วมรดน้ำศพพร้อมกราบขอโทษครอบครัวของนางปานกมล โดยบุตรสาวร้องไห้ตลอดเวลา หลังรดน้ำศพได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด


ด้านนางปานกมล รัศมี ยอมรับยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากสามารถจับกุมนายไพบูลย์ได้ ตนเองไม่ขอให้อภัยกับการกระทำในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุความขัดแย้งที่มีการเสนอข่าวว่าเป็นเพราะตั้งราวตากผ้ากีดขวางหน้าบ้านเนื่องจากบ้านอยู่ติดกัน ตนมองว่าน่าจะเกิดจากการที่ทำงานเป็นคณะกรรมการหมู่บ้านเมื่อ 2 ปีก่อนมากกว่าการตั้งราวตากผ้ากีดขวาง เนื่องจากตนเองอยู่บ้านทุกวัน หากมีข้อขัดแย้งจริงต้องเดินมาพูดกับตนเอง ไม่ใช่ไปลงกับสามีของตนแบบนี้ แต่สวนทางกับความเห็นของนายสงคราม ศุภศรี ประธานหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ ที่ระบุว่าในช่วงที่ทั้งสองเป็นคณะกรรมการหมู่บ้านไม่มีความขัดแย้งกัน น่าจะเกิดจากสาเหตุส่วนตัวมากกว่าการทำงานร่วมกัน     

เหตุการณ์เป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อ เมื่อโลกออนไล์แชร์คลิปภาพวงจรปิดภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ จ.พระนครศรีอยุธยา จับภาพรถเก๋งสีบรอนซ์ พุ่งชนเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ที่กำลังยืนเก็บกวาดอยู่ที่หน้าบ้าน เข้าอย่างจังจนร่างกระเด็นและเสียชีวิตคาที่ จนมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก 

ซึ่งความคืบหน้าทางคดีตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ขออนุมัติหมายจับนายไพบูลย์ ส่างสาร ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนบุคคลที่อยู่ในภายในรถเก๋งกับนายไพบูลย์ ขณะเกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกมาสอบถามข้อมูลแล้ว และขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปยังญาติ และเพื่อน ของนายไพบูลย์ ให้พาเข้ามอบตัว 

ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยความคืบหน้าว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องเพียงคดีธรรมดาเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เร่งติดตามตัว โดยสั่งการชุดสืบสวนไล่ติดตามตัวกรณีดังกล่าวโดยเร็วแล้ว ขณะนี้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน อย่างไรก็ตาม ถือว่าทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุก็ถูกออกหมายจับ หากมีอะไรเกิดขึ้นลักษณะดังกล่าวก็ขอให้ค่อยๆ พูดกันดีกว่า ส่วนสาเหตุจะทะเลาะเบาะแว้งแค่เรื่องราวตากผ้าหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบต้องรอจับกุมตัวเพื่อทำการสอบปากคำให้ได้ก่อนถึงจะทราบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

ล่าสุด วันที่ 26 ม.ค. 2563 ตำรวจชุดสืบสวนทราบเบาะแสว่า คนร้ายเปิดและปิดโทรศัพท์สลับกันไปมา และเดินทางลงไปจังหวัดทางภาคใต้เพื่อไปหาแม่ ซึ่งระหว่างที่เดินทางไปนั้น แม่พยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวหลังจากทราบข่าว จากนั้นก็ติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้อีกเลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น