กรุงเทพฯ 14 ม.ค. “ร.อ.ธรรมนัส” สั่งการด่วนเลขาฯ ส.ป.ก.บูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ทำระบบบริหารจัดการน้ำ แก้วิกฤติแล้งที่ ส.ป.ก. จัดสรรงบจากกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเร่งแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก.ทุกภาค ซึ่งหลายแห่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ จึงสั่งการให้เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทำแผนปฏิบัติการแก้ไขระยะเร่งด่วน โดยมอบนโยบายว่าพื้นที่ที่มอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกรแล้ว ต้องจัดหาระบบสาธารณูปโภคให้พร้อมอยู่อาศัยและทำกินได้ ขณะนี้ได้นำเงินจากกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เป็นสินเชื่อแก่เกษตรกร มอบเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสดสำหรับปลูกในฤดูแล้ง แล้วไถกลบเป็นธาตุอาหารพืชในฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ สร้างแหล่งน้ำประจำไร่นา และปล่อยพันธุ์ปลาเพื่อให้จับบริโภคและจำหน่ายได้
“เกษตรกรที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว ต้องมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ ซึ่งจะทำให้ทำเกษตรกรรมในที่ดินของรัฐได้อย่างยั่งยืน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า เร่งขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในเขตปฏิรูปที่ดินและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำในเขตปฏิรูปที่ดิน 22 จังหวัด ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินมีแหล่งน้ำสำหรับใช้ทำการเกษตรและอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ ประกอบกับภัยแล้งที่กำลังทยอยเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ ทำให้ปฏิรูปที่ดินทุกจังหวัดต้องขับเคลื่อนโครงการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำกินน้ำใช้และผ่านพ้นภัยแล้งในปีนี้ให้ได้ ทั้งนี้ ส.ป.ก.จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 82 ล้านบาทจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมาขับเคลื่อนโครงการ
สำหรับโครงการบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในเขตปฏิรูปที่ดินประกอบด้วย 2 แผนงานคือ แผนงานเพิ่มพื้นที่ชลประทาน โดยก่อสร้างแหล่งน้ำใหม่และปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม 33 แห่งใน 22 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ กระบี่ กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชุมพร นครราชสีมา นครสวรรค์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา พะเยา พิษณุโลก สกลนคร สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี วงเงิน 38 ล้านบาท และแผนงานจัดระดับพื้นที่ตามศักยภาพในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการพัฒนาใน 11 จังหวัดซึ่งจะมีการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ 4 จังหวัดและสำรวจออกแบบแหล่งน้ำและการกระจายน้ำ 7 จังหวัด วงเงิน 44ล้านบาท ส่วนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัด มีแผนงานขุดลอกและขยายสระเก็บน้ำ 7 แห่งใน 4 จังหวัดได้แก่ พะเยา กำแพงเพชร พิจิตร และบุรีรัมย์ วงเงินรวม 5.8 ล้านบาท ขณะนี้งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์แล้ว ซึ่งส.ป.ก. จะเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศเพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างสูงสุดและตรงกับวัตถุประสงค์ในการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้มีที่ทำกิน และสามารถอยู่ได้ อยู่ดี และอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย