พ้นวิกฤติน้ำดิบผลิตประปา กรมชลฯ ควบคุมค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ปกติ

กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุปฏิบัติการระดมน้ำผลักดันลิ่มความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยาสำเร็จ น้ำทะเลขึ้นสูงสุดคืนที่ผ่านมา แต่ค่าความเค็มของน้ำดิบที่หน้าสถานีสูบน้ำสำแลต่ำกว่าเกณฑ์เฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนอีกรอบ 24-25 ม.ค.นี้



นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ผลการวัดค่าความเค็มของน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าสถานีสูบน้ำสำแล จ. ปทุมธานี เวลา 09.00 น. วันนี้ (13 ม.ค.) อยู่ที่ 0.16 กรัม/ลิตร ต่ำกว่าค่าเฝ้าระวังซึ่งอยู่ที่ 0.25 กรัม/ลิตร เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดของระลอกนี้ จึงถือว่าปฏิบัติการผลักดันน้ำเค็มเป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ระบายน้ำจากหลายทางมาสู่ด้านท้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จากเขื่อนเจ้าพระยาอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระราม 6 อัตรา 11 ลบ.ม./วินาที ผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านคลองพระยาบันลือ 24 ลบ.ม./วินาที และนำน้ำแม่น้ำท่าจีนมาเสริมคลองปลายบางอัตรา 6 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งสิ้น 141 ลบ.ม./วินาที ซึ่งทำมาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม รองรับสถานการณ์น้ำหนุนจนถึงหนุนสูงที่สุดเมื่อคืนนี้


นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ได้ขอความร่วมมือจากการประปานครหลวง (กปน.) ให้หยุดสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำสำแลเข้าสู่ระบบการผลิตประปาในช่วงน้ำทะเลลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะช่วงน้ำทะเลลงมีลิ่มความเค็มค้างอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา หาก กปน.ยังคงสูบตามปกติ 60 ลบ.ม./วินาที น้ำที่เหลือไม่เพียงพอจะผลักดันลิ่มความเค็มได้ แต่เมื่อหยุดสูบตามเวลาที่กำหนดทำให้ค่าความเค็มเจือจาง โดยเวลา 15.00 น. วานนี้ (12 ม.ค.) ค่าความเค็มสูงสุดหน้าสถานีสูบน้ำสำแลอยู่ที่ 0.55 กรัม/ลิตร สูงกว่าเกณฑ์ควบคุมสำหรับผลิตน้ำประปาที่ 0.50 กรัม/ลิตรไปเล็กน้อย ซึ่งไม่มีการสูบเข้าระบบ จากการตรวจวัดเช้านี้ลิ่มความเค็มถอยห่างจากสถานีสูบน้ำสำแลไปอยู่บริเวณสะพานปทุมธานี 2 ซึ่งอยู่ห่างไป 9 กิโลเมตร จึงไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ


จากนี้จนถึงวันที่ 17 มกราคม จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลลดลงตามลำดับ ซึ่งกรมชลประทานจะลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ที่ 95 ลบ.ม./วินาที จนถึงวันที่ 15 มกราคมแล้วจะคงการระบายอยู่ที่ 90 ลบ.ม. ต่อไป แต่การบริหารจัดการน้ำจะเป็นไปตามสถานการณ์ โดยพร้อมรับภาวะน้ำทะเลหนุนอีกระลอกวันที่ 24-25 มกราคมนี้ แต่ไม่น่ากังวล เนื่องจากระดับน้ำทะเลไม่ขึ้นสูงเท่ากับครั้งนี้

“กำลังเร่งทำแผนสำรวจภูมิประเทศด้านวิศวกรรมแบบ 3 มิติของคลองพระยาบันลือ เนื่องจากเป็นคลองสำคัญที่รับน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาเสริมลุ่มเจ้าพระยา เพื่อผลักดันค่าความเค็ม ทำให้ทราบลักษณะท้องน้ำและคำนวณความจุของคลองได้อย่างแม่นยำ โดยเป็นนวัตกรรมที่นำมาใช้บริหารจัดการน้ำเค็มลุ่มเจ้าพระยาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน