กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – กรมชลประทานปรับแผนบริหารจัดการน้ำ ช่วยเหลือ 10 อำเภอ จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสูบน้ำเฉพาะตามรอบเวรที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าให้สูบน้ำได้วันจันทร์ถึงวันศุกร์และไม่เกินวันละ 10 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้ง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 10 อำเภอประกอบด้วย อำเภอฝาง เชียงดาว แม่อาย แม่แตง สันป่าตอง ฮอด อมก๋อย ดอยหล่อ กัลยาณิวัฒนา และดอยเต่า รวม 18 ตำบล 216 หมู่บ้าน 67,608 ครัวเรือน เนื่องจากฤดูฝนปี 2562 มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยทั้งจังหวัดเพียง 911 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 22 % ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงแม่น้ำสายต่าง ๆ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยกระทบต่อปริมาณน้ำดิบที่จะใช้ในการผลิตประปาหลายแห่ง ดังนั้น จึงร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ โดยใช้น้ำต้นทุนจาก 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีน้ำ 46.56 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือร้อยละ 18 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีน้ำ 60.60 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ รวมทั้งใช้น้ำจากอ่างขนาดกลางอีก 12 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 22 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภคในเขตชลประทานไว้อย่างเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
นายทองเปลว กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนปฏิบัติตามแผนการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การกำหนดให้มีการใช้น้ำในคลองส่งน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์ เวลา 09.00 น. ถึงวันศุกร์ เวลา 18.00 น. และหยุดใช้น้ำในวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสามารถสูบน้ำได้เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ไม่เกินวันละ 10 ชั่วโมง ส่วนสถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนท้องถิ่นสามารถสูบน้ำได้ตามปกติตามแผนที่ได้เสนอกรมชลประทานไว้แล้ว พร้อมขอความร่วมมืองดการเลี้ยงปลาในกระชังทั้งในแม่น้ำปิง คลองส่งน้ำ และเหมืองส่งน้ำระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำ คู คลอง หรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เนื่องจากจะทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อเจือจางน้ำเสีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ฤดูแล้งนี้
ทั้งนี้ กรมชลประทานสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปแจกจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา รวมปริมาณน้ำกว่า 746,000 ลิตร นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ซึ่งปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้นรวมกว่า 5,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่สูบสะสมรวม 2,505,000 ลบ.ม. โดยช่วยเหลือจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนและฝนตกต้องตามฤดูกาลอย่างสม่ำเสมอ ยืนยันว่าชาวเชียงใหม่จะมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอแน่นอน.-สำนักข่าวไทย