ตลท.7 ม.ค. – โพลสมาคมนักวิเคราะห์ ให้เป้าหุ้นไทยสิ้นปีนี้ 1,679 จุด เพิ่มขึ้น 100 จุด จากสิ้นปี 62 กังวล เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวการเมืองในประเทศ และความตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน เผย 5 หุ้นเด่น AOT BBL CPF PTT PTTEP
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนจำนวน 26 บริษัท พบว่า นักวิเคราะห์ 73.08% มองว่าดัชนีหุ้นไทยช่วงไตรมาส 1 มีแนวโน้มไปในทิศทางบวก โดยจุดสูงสุดของดัชนีในไตรมาส 1 อยู่ที่ระดับ 1,641 จุด ส่วนจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,537 จุด และอาจจะต่ำกว่าระดับดังกล่าว หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านมีการตอบโต้กันมากขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดสงคราม แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะกดดันหุ้นตก สวนทางกับราคาน้ำมันที่จะปรับขึ้น และส่งผล ให้ต้นทุนการผลิตขยับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ส่วนเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 1,679 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับดัชนีวันสิ้นปี 2562 ที่อยู่ 1,579 จุด หรือเพิ่มขึ้น 100 จุด ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS) ของตลาดเฉลี่ยที่ 100.71 บาท เติบโต 7.79% และ คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทย จะปรับลดลง 0.25% ในปี 2563
สำหรับปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทย 73.08 % มองว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยชะลอตัว 65.38 % ปัจจัยการเมืองในประเทศ และ 61.54 % ปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน
ส่วนปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย 73.08 % มองว่าเศรษฐกิจต่างประเทศ ทั้ง สหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ดีขึ้น 50% ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐยังผ่อนคลาย และ 50% ผลบวกจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน เสนอให้รัฐบาลกระตุ้นการลงทุนภาครัฐและเอกชน เร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นการบริโภค กระตุ้นการส่งออกและดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่า
ส่วน 5 หุ้นเด่น คือ AOT โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอาคารเทียบเครื่องบินรองจะแล้วเสร็จในปีนี้ AOT จะรองรับผู้โดยสารมากขึ้น BBL ระดับราคาหุ้นต่ำ แต่จ่ายปันปันสูง นอกจากนั้นการลงทุนในธนาคารอินโดนีเซีย จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น CPF ราคาเนื้อหมูมีแนวโน้มดีขึ้นทั้งในจีนและเวียดนาม PTT ทิศทางราคาพลังงานสูงขึ้น โดยเฉพาะจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน PTTEP ราคาพลังงานสูงขึ้น และคาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้ยังดีต่อเนื่อง . – สำนักข่าวไทย