กรมป่าไม้เร่งแก้ไขปัญหาบุกรุกป่าม่อนแจ่มอย่างยั่งยืน

กรมป่าไม้ 7 ม.ค.-กรมป่าไม้จัดทำร่างคณะกรรมการบริหารจัดการพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม
บริเวณม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประสานภาครัฐ ประชาชนออกแบบบริหารจัดการพื้นที่
อนุญาตให้ทำการเกษตรยั่งยืนและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม
(ม่อนแจ่ม) ต.แม่แรมและต.โป่งแยง อ.แม่ริม
จ.เชียงใหม่ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท และลานกางเต็นท์ในพื้นที่ป่าจำนวนมาก
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจแปลงที่ดินที่มีการก่อสร้างอาคารที่พัก
โดยให้บันทึกเก็บข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วนตรวจสอบวัดค่าพิกัดด้วยเครื่องมือตรวจหาค่าพิกัดทางดาวเทียม
(
GPS) จัดทำแปลงเพื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลถือครองพื้นที่ที่มีอยู่
ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ที่ผ่านมาได้ตรวจยึดและดำเนินคดีบ้านพักตากอากาศ ม่อนใจโฮมสเตย์
บ้านหนองหอยใหม่ หมู่ 11 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เนื้อที่ 1-3-70
ไร่ พื้นที่มีลักษณะของสิ่งปลูกสร้างก่อสร้างหลังปี 2557
ซึ่งไม่อยู่ในโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ป่าแม่ริม
ขณะตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำผิด ต่อมาขยายผลสำรวจและตรวจสอบบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท
ร้านกาแฟขนาดใหญ่ หรือสถานบริการนักท่องเที่ยวอื่นๆ พบว่า
มีกลุ่มผู้อยู่อาศัยทำกินเดิมซึ่งขยายพื้นที่เพิ่มเติม 11 รายได้แก่
โดยคณะช่างสำรวจเข้ารังวัดกำหนดจุดที่ต้องรื้อถอนหรือคืนพื้นที่แล้วซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบกิจการและราษฎรในพื้นที่เป็นอย่างดี


สำหรับการดำเนินคดีต่อสถานประกอบการที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมบุกรุกครอบครองที่ป่าไม้ซึ่งดำเนินคดีเต็มพื้นที่
6 ราย ตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการซื้อที่ดินจากผู้ครอบครองเดิม
ดำเนินธุรกิจในลักษณะนอมินี รวมถึงเป็นนายทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้แก่
ม่อนใจโฮมสเตย์ เนื้อที่ 1-3-70 ไร่ ม่อนแสนสิริจันทรา เนื้อที 4-2-34 ไร่
ม่อนดอยลอยฟ้า เนื้อที่ 1-2-84 ไร่ บ้านท่าจันทร์ เนื้อที่ 1-2-85 ไร่ รีสอร์ท
ม่อนม่วน เนื้อที่ 11-3-33 ไร่ ไร่นาย เนื้อที่ 5-1-82 ไร่
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบผู้ประกอบการที่ทำสิ่งปลูกสร้าง
แต่ระบุว่าเป็นลานกางเต็นท์อีก 8 รายได้แก่ เดอะเบสท์แคมป์ หนองหอยแคมป์
บ้านอุ่นไอหนาว ม่อนเหนือหมอก ไร่ปลายฝัน นายพงษ์ สุขสกุลปัญญา ไร่แสงอรุณ
และภูวินคาเฟ่ซึ่งขอความร่วมมือกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมตรวจสอบว่า
ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรหรือไม่เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า
ได้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริมและท้องที่ใกล้เคียงอำเภอแม่ริมดังนี้
ดำเนินคดีกับแปลงที่ดินที่มีการเปลี่ยนการถือครองที่ดิน
โดยมีกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2563
กรณีเจ้าของที่ดินเดิมก่อสร้างเกินพื้นที่ทำกินเดิม
หรือสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เหมาะสมตามหลักวิศวกรรม หรือส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดำเนินการรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน
1 เดือน หากพ้นกำหนดเวลาแล้วไม่รื้อถอนให้ถือว่า
มีเจตนาฝ่าฝืนต้องดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีทั้งแปลง โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินคดี
1 เดือน นับจากวันที่สิ้นสุดการแจ้งเตือน

สำหรับการก่อสร้างรีสอร์ท/บ้านพักตากอากาศรายใหม่ที่เกินจากที่เคยสำรวจไว้แล้วให้ดำเนินคดีทุกราย 
บูรณาการหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์และจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจไม่ให้มีการบุกรุกก่อสร้างอาคารบ้านพักรีสอร์ทเพิ่มเติมในพื้นที่โครงการหลวงหนองหอย
(ม่อนแจ่ม) และพื้นที่ใกล้เคียงตำบลโป่งแยง และ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม
จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ท
และจัดระเบียบพื้นที่โดยจะพิจารณาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบกับทรัพยากรป่าไม้ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ให้มากที่สุด
โดยมีระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน


ส่วนแนวทางการดำเนินงานจัดการพื้นที่อย่างยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง)
นั้นให้จัดทำร่างคณะกรรมการบริหารจัดการพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม)
ระหว่างภาครัฐ ประชาชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกแบบบริหารจัดการพื้นที่ในกลุ่มผู้ที่มีสิทธิ์ให้มีการจัดการพื้นที่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ต้องเป็นลักษณะการทำเกษตรกรรมนำการท่องเที่ยว
ผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกับการเกษตรแบบยั่งยืน
และการแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่หรือเสี่ยงต่อการทำลายระบบนิเวศ
ตลอดจนกำหนดรูปแบบขอบเขต
สัดส่วนของพื้นที่ในการทำการเกษตรและการบริหารที่พักที่เหมาะสมเช่น
กำหนดให้พัฒนาเป็นสถานที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์หรือที่พักชั่วคราวได้ร้อยละ 20
ของพื้นที่ถือครอง
ส่วนลานกางเต็นท์/กระโจมจะต้องมีรูปแบบที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]