กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – รมว.คมนาคมสั่งจับตาความขัดแย้งสหรัฐและอิหร่าน หวั่นทำต้นทุนน้ำมันพุ่ง ด้าน บขส.เตรียมลดเที่ยววิ่ง หากดีเซลทะลุ 30 บาท
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปติดตามผลกระทบความขัดแย้งในตะวันออกกลางและราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้ประเมินสถานการณ์ รวมทั้งวางแผนรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบทุกมิติ นอกจากนี้ หน่วยที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินผลกระทบเส้นทางบินและผู้โดยสารที่อาศัยในเส้นทางบินที่เสี่ยงต่อกระทบข้อพิพาทและรายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป
นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงการรับมือราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ความตึงเครียดตะวันออกกลาง ว่า ปัจจุบันรถของบขส 400 คัน ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลบี 20 และบี 10 เฉลี่ยปีละกว่า 20 ล้านลิตร มีต้นทุนเฉลี่ยลิตรละ 26-27 บาท หากราคาน้ำมันทะยานสูงขึ้นมากกว่าลิตรละ 30 บาท บขส.พร้อมมีมาตรการรองรับนอกเหนือจากมาตรการขอปรับราคาค่าโดยสาร ซึ่งในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลและเป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางจะพิจารณา
อย่างไรก็ตาม น้ำมันดีเซลถือเป็นน้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิงสำคัญราคาเคลื่อนไหวอาจส่งผลกระทบต่อทุกกิจกรรมเศรษฐกิจ ทั้งภาคอุตสาหกรรม ประมง โลจิสติกส์ ขนส่งสินค้า และรถโดยสาร บขส. จึงเชื่อว่าภาครัฐจะมีมาตรการกำหนดเพดาน ไม่ให้ราคาดีเซลสูงเกินไป ซึ่งก็เป็นมาตรการที่เคยนำมาใช้แล้วในอดีต
ส่วนมาตรการที่ บขส.จะพิจารณานำมาใช้ หากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เช่น มาตรการปรับเส้นทางเดินรถให้มีประสิทธิภาพ โดยมีบางเส้นทางที่ผู้โดยสารไม่มากนัก ก็สามารถปรับลดเที่ยววิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการได้ แต่ยืนยันต้องอยู่ในหลักการว่าประชาชนจะต้องไม่ขาดแคลนรถใช้บริการ.-สำนักข่าวไทย