กรมป่าไม้ลุยตรวจสอบการบุกรุกม่อนแจ่ม

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – อธิบดีกรมป่าไม้ระบุชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรบูรณาการกับหลายหน่วยตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าม่อนแจ่ม ปักป้าย “พื้นที่ตรวจยึด” หน้ารีสอร์ท 3 แห่งที่ถูกดำเนินคดี ให้ผู้ครอบครองโต้แย้งสิทธิ์ใน 15 วัน หากไม่มาหรือฟังไม่ขึ้น รื้อถอนทันที จ่อร้องเอาผิดบุกรุกเข้าใหม่หรือซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินทั้งหมด



นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า คณะทำงานจัดระเบียบการเข้าใช้ประโยชน์ที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาต มาตรา 25 สั่งให้บุคคลผู้เป็นเจ้าของหรือครอบครองพื้นที่ยุติการดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในลักษณะบ้านพัก รีสอร์ท ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ในพื้นที่ (โครงการหลวงหนองหอย) หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายเข้าปิดป้าย “พื้นที่ตรวจยึด” หน้ารีสอร์ท 3 แห่ง คือ ม่อนดอยลอยฟ้า บ้านท่าจันทร์ และม่อนแสนสิริจันทรา พร้อมออกประกาศให้ผู้ครอบครองพื้นที่ที่ถูกตรวจยึดพื้นที่ ซึ่งถูกดำเนินคดีทั้ง 3 รายเข้าแสดงหลักฐานโต้แย้งสิทธิ์ภายใน 15 วัน หากพ้นเวลาจะทำคำสั่งให้รื้อถอนต่อไป 


สำหรับม่อนดอยลอยฟ้ามีอาคาร 13 หลัง ประกอบด้วย บ้านพักโฮมสเตย์ 8 หลัง บ้านพักอาศัย 2 หลัง และโรงครัว 1 หลัง รวมพื้นที่ 1-2-84 ไร่ บ้านท่าจันทร์มีอาคาร 11 หลัง เป็นบ้านพักประเภทรีสอร์ท รวมพื้นที่ 1-2-84 ไร่ และม่อนแสนสิริจันทรา 4-2-34 ไร่ นอกจากนี้ ยังออกประกาศแจ้งว่าพื้นที่ม่อนแจ่มอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริมซึ่งมีพรรณไม้มีค่าเป็นปริมาณมาก จำเป็นต้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้ จึงขอให้ผู้บุกรุกครอบครองยุติการก่อสร้างอาคารลักษณะบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท ร้านกาแฟ และสถานบริการท่องเที่ยวอื่น ๆ ท้องที่บ้านปางไฮ หมู่ที่ 4 ตำบลแม่แรม บ้านหนองหอยเก่า หมู่ที่ 2 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ล่าสุดไม่พบการก่อสร้างเพิ่มเติม

นายอรรถพล กล่าวถึงบ่อขยะ ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่ขุดบริเวณที่เป็นป่าต้นน้ำชั้น 1 A ได้หารือกับฝ่ายปกครองและนายกเทศบาลแม่แรมเห็นตรงกันว่า ควรกลบบ่อขยะที่ขุดขึ้นในพื้นที่ต้นน้ำที่ม่อนแจ่ม เพื่อไม่ให้สารพิษของขยะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แหล่งน้ำที่ราษฎรใช้อุปโภค-บริโภค จึงได้ประสานกับทางผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้านช่วยกันหาพื้นที่ที่เหมาะสม เมื่อได้พื้นที่แล้วจะขอใช้พื้นที่ต่อกรมป่าไม้ โดยทางเทศบาลจะเป็นผู้ขุดบ่อขยะใหม่แทนบ่อเดิม 

สำหรับสวนสตอร์เบอรี่เหยียบเมฆา ทางเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกัลยาณิวัฒนาเข้าตรวจสอบแล้วปรากฎว่า เป็นพื้นที่ของนายดำรงค์ โอภาสสุวคนธ์ เนื้อที่ 14-2-5 ไร่ ซึ่งผู้ครอบครองแจ้งว่าปลูกมาแล้วประมาณ 2 ปี เดิมปลูกกระหล่ำปลี พร้อมนำเอกสารทะเบียนประวัติการใช้ที่ดินตำบลแม่แดดมาแสดง ซึ่งเป็นเอกสารตามโครงการจัดทำข้อมูลทรัพยากรป่าไม้แม่แจ่ม อมก๋อย กัลยาณิวัฒนา เริ่มตั้งแต่ปี 2551-2554 โดยงบประมาณของจังหวัดเชียงใหม่ แต่โครงการที่ตำบลแม่แดดยังไม่ได้รับการจัดที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งจะเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ( คทช.) ปี 2563-2564


“นัดหมายผู้ประกอบการ 50 รายมารับทราบการปฏิบัติในสิ่งที่สามารถกระทำได้และไม่สามารถกระทำได้วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กองอำนวยการตั้งอยู่โครงการหลวงหนองหอย เพื่อตกลงและจัดระเบียบไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมต่อไป” นายอรรถพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

“บิ๊กต่าย” สั่งขยายผลแก๊งทำคอนเทนต์ รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์”

“บิ๊กต่าย” สั่งการขยายผลกระทำผิดของแก๊งทำคอนเทนต์ ที่รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากการกระทำไหนเข้าข่ายความผิด ก็ดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกกรณี

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]