เพชรบูรณ์ 26 ธ.ค.- สำนักข่าวไทย ยังเกาะติดปัญหาชาวบ้าน ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ที่ต่อสู้เรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกิน หลังถูกนายทุนออกโฉนดทับที่ทำกินมานานกว่า 30 ปี วันนี้พวกเขาไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว เมื่อดีเอสไอรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เตรียมตรวจสอบรายชื่อข้าราชการเพื่อดำเนินคดีอาญา
ความเดือดร้อนของชาวบ้าน ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จากปัญหานายทุนออกโฉนดทับที่ทำกินมานานกว่า 30 ปี สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านกว่า 200 ราย พื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ชาวบ้านต่อสู้เรียกร้องสิทธิมานาน แต่ไม่เป็นผล หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยืนยันนายทุนได้โฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ชาวบ้านไร้สิทธิคัดค้าน
การต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวของชาวบ้านท่าข้าม ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ได้ยุติลงแล้ว หลังดีเอสไอ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบว่านายทุนครอบครองโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.ท่าข้ามรวม 3 ฉบับ แต่โฉนด 2 ฉบับ เลขที่ 284 และ 285 พื้นที่หมู่ 11 เนื้อที่กว่า 1,500 ไร่ ได้มาไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ นายทุนยังถือครองเอกสารสิทธิ นส.3 ระบุพิกัดชัดเจนเป็นที่ดินรอยต่อ โฉนดทั้ง 2 แปลงเกือบ 100 ฉบับ กินพื้นที่อีก 4 หมู่บ้าน ทั้ง หมู่ 3, 5, 7 และหมู่ 8 เนื้อที่รวมกว่า 4,000 ไร่ ทำให้มีชาวบ้านตกเป็นผู้เสียหายเพิ่มเติมกว่า 200 ราย
ทนายความซึ่งเชี่ยวชาญคดีทางปกครองและคดีที่ดินในพื้นที่ภาคเหนือมองว่า ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านท่าข้าม เกิดจากกรมที่ดินออกเอกสารสิทธิโฉนดและ นส.3 ให้นายทุนโดยมิชอบ ซึ่งการออกเอกสารดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง เมื่อขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิมิชอบด้วยกฎหมาย ชาวบ้านมีสิทธิฟ้องแพ่งต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนคำสั่งทางปกครองของกรมที่ดินได้
ส่วนคดีอาญา หรือการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิโฉนด และ นส.3 ดีเอสไอ ดำเนินการไปแล้วกว่า 50% คงเหลือขั้นตอนการสอบปากคำชาวบ้านผู้เสียหายรายใหม่กว่า 200 รายใน 4 หมู่บ้าน ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ก่อนตรวจสอบว่าข้าราชการในกรมที่ดินมีใครเกี่ยวข้องกับการออกโฉนดและ นส.3 ให้นายทุนบ้าง แม้คดีนี้จะเกิดมานานเกิน 30 ปี เจ้าหน้าที่บางคนเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ต่ำกว่า 5 คน ยังคงรับราชการในกรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งดีเอสไอ ระบุบุคคลเหล่านี้ต้องรับโทษในคดีอาญา เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไปแล้ว .-สำนักข่าวไทย