อุตฯ เผยปล่อยสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืนไปแล้วกว่า 70 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. – ก.อุตฯ เผยปล่อยสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืนไปแล้วกว่า 70 ล้านบาท คาดจะทยอยปล่อยครบ 3,000 ล้าน ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พร้อมเตรียมอีก 5 โครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอี


นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ในวันนี้ (23 ธันวาคม 2562) รับทราบความก้าวหน้าการปล่อยสินเชื่อของโครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน วงเงิน 3,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐนั้น จะเปิดให้ยื่นคำขอต่อไปจนถึง  สิ้นเดือนมกราคม 2563 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด โดยตั้งแต่เปิดให้ยื่นคำขอวันที่ 15 พฤศจิกายน จนถึง 20 ธันวาคม 2562 ได้รับการอนุมัติสินเชื่อฯไปแล้ว 28 ราย วงเงิน 70.80 ล้านบาท และยังมีคำขอสินเชื่อฯ อีก 700 ราย วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ที่กำลังทยอยเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองของคณะอนุกรรมการ ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการยื่นคำขอสินเชื่อมากที่สุด 7 อันดับแรก ได้แก่ กทม. สมุทรปราการ สงขลา สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม และภูเก็ต และคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อวงเงินรวม 3,000 ล้านบาทได้หมดภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยผู้สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ SME Support & Rescue Center หรือ ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สายด่วนโทร.1358 หรือ http://www.smerescuecenter.com

 นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุน ฯ ได้มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.รบ. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ พ.ศ…. และมอบหมายให้สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ และฝ่ายกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562 เพื่อเสนอกฎหมายดังกล่าวต่อไป และคณะกรรมการบริหารกองทุน ฯ ยังได้มีมติเห็นชอบโครงการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี ปี 63 แล้ว 5 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการสู่อุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 (2) โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหารภาคตะวันออกสู่อุตสาหกรรม 4.0 (3) โครงการยกระดับศักยภาพ SMEs อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีการแปรรูป (4)โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และ (5) โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการนำประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาสถานประกอบการ (Research Connect) เพื่อให้การส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีอย่างครบทุกมิติ ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้าน BCG (Bio-Circular-Green Economy)  โดยอัดงบประมาณกว่า 52 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการ และคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาท


 “กระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นว่าโครงการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็ม อีนั้น ถือเป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้อย่างตรงเป้า ทั้งยังช่วยเสริมศักยภาพให้เอสเอ็มอี สามารถต่อยอดแนวคิดในการทำผลิตภัณฑ์เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้ง 5 โครงการฯ ของปี 2563 ที่ผ่านการพิจารณานั้นเป็นงบประมาณจำนวนกว่า 52.6 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาท ทั้งนี้ยังเร่งการพิจารณาอนุมัติโครงการฯ อื่นๆ เพิ่มเติม อีก 17 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 143.35 ล้านบาท”ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง