รัฐสภา 29 พ.ค.-“เผ่าภูมิ” ยัน รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ผ่านโครงการ PGS 11 เผย เตรียม PGS 12 อีก 30,000-50,000 ล้านบาท ลุยช่วย SMEs ต่อ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงประเด็นเรื่อง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยเห็นตรงกับผู้อภิปรายว่า การค้ำประกันสินเชื่อมีความสำคัญ เพราะ SMEs ไทยมีความเสี่ยง เนื่องจากธนาคารไม่อยากปล่อยสินเชื่อให้กับ SMEsที่มีความเสี่ยง ทำให้ SMEs เข้าไม่ถึงสินเชื่อ และบสย.ถือเป็นหน่วยงานโดยตรงที่ดูแลการค้ำประกันสินเชื่อ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านยังมีข้อมูลที่คาดเคลื่อน ที่ระบุว่า บสย.ไม่อนุมัติให้ SMEs แต่ข้อเท็จจริงปัจจุบัน รัฐบาลมีโครงการ PGS 11 หรือ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ (Portfolio Guarantee Scheme) ระยะที่ 11 วงเงิน 50,000 ล้านบาท มี SMEs เข้าถึงสินเชื่อในโครงการนี้แล้ว 49,107 ราย และมี Micro SMEs อยู่ถึง 82% และ Non Micro SMEs อีก 18%
นายเผ่าภูมิ ชี้แจงต่อว่า โครงการ PGS 11 มีการอนุมัติการค้ำประกันแล้ว 36,400 ล้านบาท เข้าสู่ภาคบริการ ประมาณ 30% ซึ่งภาคบริการถือเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ เพราะฉะนั้นที่ฝ่ายค้านระบุว่า SMEs ไม่เข้าถึงสินเชื่อไม่เป็นความจริง
“โครงการ PGS 11 รัฐบาลใช้มาตรา 28 (ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐฯ) ทำให้มีวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท ใช้งบประมาณ ประมาณ7,000 กว่าล้านผ่านม.28 ไม่ได้ผ่านงบประมาณ ท่านจึงไม่เห็นในงบประมาณ ถ้าตรงนี้หมดผมกำลังทำเรื่องเข้าครม.ต่อ เป็นเรื่อง PGS 12 เข้าเติมอีก 30,000-50,000 ล้านบาท ทันทีและต่อเนื่อง เพื่อพี่น้อง SMEs ของเรา”นายเผ่าภูมิ กล่าว
นายเผ่าภูมิ ชี้แจง กรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญงบประมาณที่นำไปใช้หนี้ตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ว่า ตัวเลขม.28 ไม่สามารถเปิดเผยเพราะเป็นเอกสารลับ แต่ยืนยันว่า ช่องว่างของ ม.28 ในปัจจุบันยังเหลือเยอะ
“เราเป็นรัฐบาลที่ใช้ ม.28 น้อย เราเหลือช่องว่างตรงนี้เยอะ เพราะฉะนั้นการจัดสรรงบประมาณที่ชาญฉลาด ไปสู่ส่วนที่สำคัญกว่าเสมอ” นายเผ่าภูมิ กล่าว
นายเผ่าภูมิ เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 68 สินเชื่อในระบบที่บสย.กำกับดูแล โต 5.6% แต่ที่ดึงรั้น คือ สินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์หดตัวอยู่ที่ 1.3% แต่ในภาพรวม สินเชื่อในไตรมาส 1 ปี 68 อยู่ที่ 1.5% ซึ่งปัญหาอยู่ที่ธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำกับดูแล และทางกระทรวงการคลังได้มีหารือร่วมกับ ธปท.สม่ำเสมอ เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ หรือลดหลักเกณฑ์ให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการปล่อยสินเชื่อรถยนต์น้อย เพราะคนที่รถยนต์ รถกระบะมีความเสี่ยง ทางกระทรวงจึงได้ออกโครงการ “กระบะพี่มีคลังค้ำ” โดยให้บสย.เข้าไปค้ำประกัน ให้ประชาชนสามารถมีรถกระบะ มีรถยนต์ได้
ส่วนกรณีสินเชื่อบ้านหดตัว ภาคอสังหาริมทรัพย์มีปัญหา นายเผ่าภูมิ ยอมรับว่า เป็นความจริง แต่สิ่งที่รัฐบาลทำ คือ ได้มีการปลดล็อก LTV หรือ การผ่อนคลายหรือปรับลดเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และมีการลดค่าจดจำนอง ลดค่าธรรมเนียมการโอน ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลมีโครงการสินเชื่อ “ซื้อ-สร้าง-ซ่อม-แต่ง”วงเงิน 55,000 ล้านบาท.-315 -สำนักข่าวไทย