บทสรุปซีเกมส์ “กรีฑา-จักรยาน-เทควันโด-เรือใบ” ผลงานทะลุเป้า

12 ธ.ค.62- นายศิริ สาระผล
อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงาน
มีทเดอะเพรสเปิดเผยว่า
จากการที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ได้จัดงาน
มีทเดอะเพรสการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเชิญสมาคมกีฬาต่าง ๆ ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน
50 สมาคม มาแถลงถึงความหวังในการคว้าเหรียญทอง ซึ่งการประเมินในงาน
มีทเดอะเพรสทั้ง 7 ครั้ง
มีเพียงสมาคมกีฬาเนตบอลฯ ที่ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าว จึงเหลือ 49 สมาคม โดยทั้ง 49
สมาคม ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้เหรียญทองรวมกันทั้งสิ้น 121 เหรียญทอง แต่เมื่อผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
เสร็จสิ้นลง จำนวนเหรียญรางวัลที่ทำได้คือ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123
เหรียญทองแดง ได้อันดับ 3 ของตารางสรุปเหรียญ ทำเหรียญทองได้น้อยกว่าเวียดนาม
ที่ได้อันดับ 2 ถึง 6 เหรียญทอง


นายศิริ กล่าวว่า หลายสมาคมทำผลงานได้อย่างทะลุเป้า
ที่ต้องชื่นชมอย่างมากคือ กรีฑา ตั้งเป้าไว้ 6 เหรียญทอง แต่ทำได้ 12 เหรียญทอง
, เทควันโด
ประเมินไว้ 4 เหรียญทอง ทำได้ 7 เหรียญทอง
, จักรยาน ประเมินไว้ 2 เหรียญทอง
ทำได้ 6 เหรียญทอง
, เรือใบ ประเมินไว้ 3 เหรียญทอง ทำได้ 5
เหรียญทอง ขณะที่หลายสมาคมกีฬาทำผลงานได้น่าผิดหวังมาก เช่น ฟุตบอล ประเมิน 2
เหรียญทอง
, เทนนิส
ประเมินไว้ 3 เหรียญทอง
, บาสเกตบอล ประเมินไว้ 2 เหรียญทอง แต่ทั้ง 3
สมาคมดังกล่าวไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาได้เลย หรืออย่าง กอล์ฟ ประเมินไว้ 4
เหรียญทอง ทำได้แค่ 1 เหรียญทอง
, เรือพาย ประเมินไว้ 7 เหรียญทอง ทำได้แค่ 2
เหรียญทอง และมีเพียงสมาคมกีฬาซอฟท์บอลฯ
สมาคมเดียวที่ไม่ได้เหรียญรางวัลอะไรติดมือกลับมาเลย

 


สำหรับการประเมินผลจากงาน
มีทเดอะเพรส ที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ จัดขึ้น เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเท่านั้น
แต่ผลงานของสมาคมกีฬาต่าง ๆ ที่ทำไว้ในซีเกมส์หนนี้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า
เราควรจะต้องพัฒนาตัวเพิ่มมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะกีฬาที่เป็นสากล
ไม่ใช่กีฬาพื้นบ้าน เมื่อเทียบกับเวียดนาม เขาพัฒนาหนีเราไปมากพอสมควร
ขณะที่หลายสมาคมที่ทำผลงานไว้ดีแล้ว ก็ต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ให้ดี
และต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
นายศิริ กล่าว

บทสรุปผลงานของสมาคมกีฬาต่าง ๆ จากงาน มีทเดอะเพรสทั้ง 51 สมาคม
แบ่งไว้ 4 กลุ่ม คือ 1.เกินเป้าหมาย
, 2.ตามเป้าหมาย, 3.ต่ำกว่าเป้าหมาย, 4.ไม่ได้ตามเป้าหมาย
ดังนี้ 
เกินเป้าหมาย 1.กรีฑา ประเมิน 6 ได้ 12 ทอง, 2.จักรยาน
ประเมิน 2 ได้ 6 ทอง
, 3.เทควันโด ประเมิน 4 ได้ 7 ทอง, 4.เรือใบ
ประเมิน 3 ได้ 5 ทอง
, 5.มวยไทย ประเมิน 2 ได้ 4 ทอง, 6.ยิงปืน
ประเมิน 3 ได้ 4 ทอง
, 7.ยิงธนู ประเมิน 2 ได้ 3 ทอง, 8.ยูโด/แซมโบ
ประเมิน 6 ได้ 7 ทอง 
ตามเป้าหมาย 1.รักบี้ฟุตบอล ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 2.คาราเต้/คิกบ็อกซิ่ง
ประเมิน 3 ได้ 3 ทอง
, 3.มวยสากล ประเมิน 5 ได้ ทอง, 4.หมากรุก
ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง
, 5.ตะกร้อ ประเมิน 3 ได้ 3 ทอง, 6.เทเบิลเทนนิส
ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง
, 7. เปตอง ประเมิน 2 ได้ 2 ทอง, 8. แบดมินตัน
ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง
, 9.บิลเลียด สนุกเกอร์ ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 10.ฟิกเกอร์สเก็ต
และสปีดสเก็ตติ้ง ประเมิน 2 ได้ 2 ทอง
, 11.ฮอกกี้น้ำแข็ง ประเมิน 1 ได้ 1
ทอง
, 12.คูราช
ประเมิน 2 ได้ 2 ทอง
, 13.ไตรกีฬา ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 14.วอลเลย์บอล
ประเมิน 2 ได้ 2 ทอง



ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.เรือพาย เรือแคนู
และเรือประเพณี ประเมิน 7 ได้ 2ทอง
, 2.ฟันดาบ ประเมิน 3 ได้ 2 ทอง, 3.วินด์เซิร์ฟ
ประเมิน 2 ได้ 1 ทอง
, 4.ยูยิตสู ประเมิน 5 ได้ 2 ทอง, 5.กอล์ฟ
ประเมิน 4 ได้ 1 ทอง
, 6.ว่ายน้ำ กระโดดน้ำ และโปโลน้ำ ประเมิน 3 ได้ 2
ทอง
, 7. อี-สปอร์ต
ประเมิน 3 ได้ 2 ทอง
, 8.เอ็กซ์ตรีม (สเก็ตบอร์ด / เวคบอร์ด /
จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ผาดโผน) ประเมิน 6 ได้ 3 ทอง
, 9.ยิมนาสติก ประเมิน 2 ได้ 1 ทอง, 10.ฮอกกี้/ฟลอร์บอล
ประเมิน 2 ได้ 1 ทอง
, 11.ปันจักสีลัต ประเมิน 2 ได้ 1 ทอง

 

ไม่ได้ตามเป้าหมาย
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีเหรียญทอง 1.เบสบอล ประเมิน 1 ทอง
, 2.ซอฟท์บอล
ประเมิน 2 ทอง (ไม่มีเหรียญรางวัล)
, 3.มวยปล้ำ ประเมิน 2 ทอง, 4.ลอนโบว์
ประเมิน 2 ทอง
, 5.ปัญจกีฬาสมัยใหม่
ประเมิน 3 ทอง
, 6.ซอฟท์เทนนิส
ประเมิน 2 ทอง
, 7.สควอช
ประเมิน 1 ทอง
, 8.กระดานโต้คลื่น
ประเมิน 1 ทอง
, 9.เทนนิส
ประเมิน 3 ทอง
, 10.วูซู
ประเมิน 1 ทอง
, 11.บาสเกตบอล
ประเมิน 2 ทอง
, 12.โบว์ลิ่ง
ประเมิน 1 ทอง
, 13.ลีลาศ
ประเมิน 3 ทอง
, 14.แฮนด์บอล
ประเมิน 1 ทอง
, 15.ฟุตบอล
ประเมิน 2 ทอง และ 16.เนตบอล ซึ่งไม่ได้ร่วมงานแถลง แต่ก็ไม่มีเหรียญทอง.สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย