เอกชน ฟันธงปีหน้าเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ขอการเมืองนิ่ง

กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – กกร.ระบุ เศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดแล้ว ปีหน้าเศรษฐกิจจะดีขึ้น พร้อมขอรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 เพื่อสร้างแรงส่งต่อเนื่องให้เศรษฐกิจปีหน้าให้ดีขึ้น ส่วนการเมืองต้องมีเสถียรภาพ 


นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. ว่า กกร.มองภาพรวมเศรษฐกิจไทย น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ดังนั้น ปีหน้า ปี 2563 เศรษฐกิจไทย น่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากงบประมาณปี  2563 จะออกมา ช่วยให้ภาครัฐมีการใช้จ่ายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ด้านการลงทุนก็พบว่า ขณะนี้นักลงทุนจากหลาย ๆ ประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หลังจากที่ยื่นโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)และได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว ก็จะเริ่มเข้ามาลงทุน และหลายโรงงานจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ ส่วนการค้าขายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และประเทศเวียดนาม แนวโน้มการค้ากับไทยยังไปได้ โดยเฉพาะเวียดนามการค้าดีมาก ด้านอุปโภคบริโภคประเทศเพื่อนบ้านยังต้องการสินค้าจากไทยอยู่  สำหรับการท่องเที่ยวคาดว่า ปีนี้ ยอดนักท่องเที่ยวน่าจะมียอดรวมประมาณ  40 ล้านคน โดยที่นักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่องและยังมีจำนวนมากปีนี้ประเมินว่ามียอดไม่ต่ำกว่า  10 ล้านคน และคงมียอดเพิ่มขึ้นถึงประมาณ  11 ล้านคน 

“มองไปข้างหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังขาดแรงหนุนให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงมีอยู่มาก โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย นอกจากนี้ ความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ยังมีผลต่อการลงทุนของภาครัฐและเป็นข้อจำกัดหากรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีคนสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก เพราะปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ของไทยยังแข็งแกร่งโดยมีเงินทุนสำรองจำนวนมาก ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม หากการเมืองนิ่งและมีเสถียรภาพ นักลงทุนก็มีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เห็นได้จากที่ทางแครี่ แลม มาเยือนประเทศไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนได้ยื่นขอรับการส่งเสริมโครงการลงทุนเพื่อพิจารณาโครงการซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี” นายกลินท์ กล่าว 


สำหรับมาตรการ Ease of doing business ของประเทศไทย รัฐบาลให้ความสำคัญ มีคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการแก้ไขให้ระดับการเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยสะดวกยิ่งขึ้น เช่น การปรับแก้ไขกรณี ตม.6 ตม.3 และเร็ว ๆ นี้จะมีการใช้แอปพิเคชั่นเพื่อให้นักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนมีความสะดวกยิ่งขึ้นด้วย โดยภาพรวมแล้ว กกร.จึงมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ปี 2563 จะเป็นในทิศทางที่ปรับตัวดีขั้น ส่วนประมาณการณ์เศรษฐกิจทาง กกร. จะมีการประเมินใหม่ในเดือน ม.ค.2563 ต่อไป

ด้านนโยบายรัฐบาลในเรื่องการปรับค่าแรงนั้น ทาง กกร.อยากขอให้รัฐบาลชะลอนโยบายนี้ออกไปให้นานเท่าที่จะสามารถทำได้ เนื่องจากแนวโน้มการประกอบการของภาคเอกชน ปัจจุบันโรงงานต่าง ๆ มีการใช้แรงงานลดลง เพราะบางส่วนปรับมาใช้เครื่องจักรและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากขึ้น หากรัฐบาลเร่งขึ้นค่าแรง จะเสี่ยงต่อการที่โรงงานจะปรับตัวหันไปใช้เครื่องจักรหรือใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐจะปรับขึ้นค่าแรง หากอัตราการปรับขึ้นไม่มากนัก ผู้ประกอบการเอกชนก็พอที่จะรับได้ถือว่าพอไหว 

ส่วนการเมืองในประเทศ ผู้ประกอบการเอกชน อยากเห็นการเมืองไทยเป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ เพราะจะทำให้นักลงทุนต้องการเข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวอยากเข้ามาท่องเที่ยว จึงอยากฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย หากทำได้เศรษฐกิจไทยจะไปได้อีกมาก ส่วนเงินบาทเป็นเรื่องที่ถือได้ว่าเป็น New Normal คือ ความปกติแบบใหม่ไปแล้ว หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง ร้อยละ 0.25 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ร้อยละ 1.25 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้ปรับเกณฑ์ 4 มาตรการเพื่อลดแรงกดดันค่าเงินบาทนั้น  กกร. เห็นว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมาอาจช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในระยะสั้น จึงขอให้ ธปท. พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SMEs และหากยังปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจะส่งผลกระทบในระยะยาว  


นายกลินท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม กกร.ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 มีแรงส่งต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าปรับตัวดีขึ้น และรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวไปมากกว่านี้ สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่รัฐบาลควรดำเนินการ ได้แก่ มาตรการช้อปช่วยชาติ โดยให้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค (ยกเว้นสินค้าบางประเภท อาทิ สุรา ยาสูบ เป็นต้น) รวมทั้งของขวัญปีใหม่ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท, มาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง  โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และของนิติบุคคลไม่เกิน 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง พร้อมทั้งเร่งการลงทุนภาครัฐเพื่อให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องของภาคเอกชน อันจะส่งผลต่อห่วงโซ่มูลค่าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำชลประทานในทุกจังหวัด โดยใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ ใช้ผู้รับเหมาจากในพื้นที่เท่านั้น (Local to Local) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย / กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ ควรผลักดันและเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนงานของ บสย. ในปี 2563 เช่น โครงการ PGS8 (โครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับ SMEs) และการนำ Credit Scoring มาใช้เพื่อให้สามารถคิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันตามลำดับความเสี่ยงของ SMEs ให้มีการดำเนินการที่เร็วขึ้น, เร่งรัดการคืนภาษี VAT ทั้งผู้ส่งออกและผู้ประกอบการให้รวดเร็วขึ้น โดยเชื่อมโยงกับบริการ e-Payment, ผลักดันโครงการค้ำประกันการส่งออกให้ครอบคลุมตลาดใหม่ๆของ SMEs และรัฐบาลช่วยรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันการส่งออกให้กับ SMEs ในตลาดเป้าหมาย และส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกที่เป็น SMEs ขายสินค้าเป็นเงินบาท และให้สิทธิพิเศษในการทำธุรกรรมทางการเงินสำหรับการรับชำระค่าสินค้าโดยไม่คิดค่า Premium หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง EXIM Bank 

ในส่วนของปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ตลอดจนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จากปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการนำเสนอหลักการและสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่อความสะอาดของอากาศ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเสนอร่างกฎหมาย กกร.จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมลงชื่อสนับสนุนพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ไปยังหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการความสะอาดของอากาศอย่างบูรณาการต่อไป 

สำหรับเศรฐษกิจไทยไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ที่ประชุม กกร.เห็นว่า จากตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 3 ปี 2562 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดและเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ทั้งการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังไม่ชัดเจน โดยมีเพียงการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนและการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของภาครัฐ ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชิมช้อปใช้ และการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrivals. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]