คนขับกระบะพุ่งชนเก๋งยอมรับโมโหจัด จอดขวางขนของออกไม่ได้

สมุทรปราการ 2 ธ.ค. – คนขับรถกระบะพุ่งชนเก๋งในซอยหมู่บ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ยอมรับโมโหจัด เนื่องจากรถเก๋งจอดขวาง ทำให้ขนของออกไม่ได้ พบก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหากันมาแล้ว


คลิปวงจรปิดบริเวณปากซอย 6 ของหมู่บ้านนครทองซิตี้ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ เผยให้เห็นรถกระบะแบบยกสูง โฟร์วีลไดรฟ์ ขับชนรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีดำ ที่จอดชิดกำแพงอยู่ภายในซอย 6 ซึ่งเป็นซอยตัน โดยก่อนเกิดเหตุในภาพวงจรปิดยังพบชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน ใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นรถเก๋ง BMW และรถกระบะยกสูง ISUZU คันที่ก่อเหตุ


เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถเข้ามาภายในหมู่บ้าน ชายที่ขับรถเก๋ง BMW ได้ลงจากรถ พร้อมถือวัตถุบางอย่างเป็นสีดำ เหน็บไว้ที่เอว แล้วเดินลงมาคุยกับชายฉกรรจ์คนอื่น และมีชายรูปร่างท้วมเป็นคนขับรถกระบะยกสูง ขับชนรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ถึง 2 ครั้ง จนรถฮอนด้าซิตี้กระเด็นไปถูกรถกระบะคันที่จอดอยู่ด้านหน้าได้รับความเสียหายทั้ง 2 คัน โดยเฉพาะรถฮอนด้าซิตี้ พังยับเยินทั้งด้านหน้าและท้ายรถ ต่อหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่เหลือยืนดูเหตุการณ์คล้ายกับเป็นการคุมเชิง นอกจากนี้ ในคลิปยังปรากฏชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังที่รถฮอนด้าซิตี้จอดอยู่ใกล้ที่สุด เดินมาพูดคุยกับชายเสื้อขาวที่ขับรถ BMW และตอนท้ายคลิป ชายที่ทางผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นเจ้าของบ้านใกล้ที่เกิดเหตุนี้ เป็นคนนำคีย์การ์ดไปเปิดประตูให้รถผู้ก่อเหตุหนีออกจากหมู่บ้านด้วย


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายวิชิต พิลาศรี อายุ 47 ปี เจ้าของรถฮอนด้าซิตี้ที่ถูกชน และนายปรัชญา วงโอษฐ์ อายุ 40 ปี เพื่อนของนายวิชิต และเป็นเจ้าของรถกระบะที่ถูกฮอนด้าซิตี้กระเด็นไปชนจนได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยนายปรัชญา เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ในซอยตรงข้ามกับซอยที่เกิดเหตุ ซึ่งในวันเกิดเหตุ (30 พ.ย.) โรงเรียนของลูกมีกิจกรรมพิเศษ ผู้ปกครองของเพื่อนในชั้นเรียนของลูก จึงชวนกันมาซุ่มแต่งตัว เพื่อเซอร์ไพรส์ในการทำกิจกรรมที่บ้านของตนหลายคน จนหน้าบ้านตนที่จอดรถไม่พอ ตนจึงนำรถกระบะของตน และชวนนายวิชิต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน นำรถไปจอดในซอย 6 ที่เป็นซอยตัน เพื่อหน้าบ้านจะได้ว่างให้ผู้ปกครองของเพื่อนลูกคนอื่นได้จอดรถ 

หลังจากที่แอบซุ่มทำกิจกรรมกันแล้ว ก็ได้พากันออกไปที่โรงเรียน และแวะทำธุระที่อื่นต่อ จนอาจเป็นเหตุให้เจ้าของบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถฮอนด้าซิตี้จอดอยู่ไม่พอใจ เพราะเคยมีปากเสียงกันเรื่องจอดรถแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาถึงบ้าน พบว่ารถของตนและรถของนายวิชิตได้รับความเสียหาย จึงไปขอทางนิติบุคคลเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่น่าจะรู้จักเจ้าของบ้านตรงข้ามกับจุดที่จอดรถพากันมาก่อเหตุ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู เพราะถือเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน เย้ยกฎหมาย 

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (2 ธ.ค.) นายวรรณลภ ปิ่นมอญ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเรื่อง และนายภัสกร เพชรชำลิ อายุ 40 ปี คนขับรถกระบะพันธุ์โหดที่พุ่งชน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แยกสอบทีละชุด โดยให้ฝ่ายผู้ก่อเหตุเข้ามานั่งรอในห้องเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก่อน เพื่อรอการสอบปากคำ

นายภัสกร กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุ ตนขับรถมาเพื่อจะขนของที่บ้านของนายวรรณลภ แต่ต้นไม้ยกไม่ได้ เพราะรถเก๋งจอดขวางอยู่ จะเอารถเข้าบ้านเพื่อยกโซฟาในบ้านก็ไม่ได้อีก เมื่อไปตามเจ้าของรถกลับไม่อยู่ คิดว่าเขาจอดทิ้งไว้ แต่มารู้ภายหลังว่าเคยมีปัญหากันมาบ้างแล้ว ตนยอมรับว่าตัดสินใจทำเอง และโมโหแทนพี่เขา โดยตนได้ไปตามเจ้าของรถคันดังกล่าวมา 2 ครั้งแล้ว ข้างบ้านบอกว่าเขาไปข้างนอกกัน เลยคิดว่าอย่างนี้เป็นการจงใจ

นายวรรณลภ ปิ่นมอญ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ทราบว่า นายภัสกรจะทำแบบนี้ หันมาอีกที เขาก็ขับรถชนแล้ว ตอนนั้นยอมรับว่า เห็นนายภัสกรโกรธจริง

นายวรรณลภ กล่าวอีกว่า ตนและเพื่อนบ้านอีกฝั่งมีปัญหากันบ่อยครั้ง เพราะบ้านเขาอยู่ซอย 6 ส่วนบ้านตนอยู่ซอย 1 ตนก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่จอดรถในซอยของตัวเอง ทำไมถึงมาจอดในซอยฝั่งตรงข้าม เคยมีการเจรจาพูดคุยกันไปแล้ว แต่ก็เหมือนเดิม เลยอยากขอให้เห็นใจคนในหมู่บ้านเดียวกันด้วย

ด้าน พ.ต.ท.สมัย เจริญราช สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนตัวผู้ก่อเหตุและผู้ที่ถูกกล่าวหา จะเรียกสอบหลังจากที่สอบผู้เสียหายเสร็จแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าว จากภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ เข้าข่ายร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และเมื่อสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ก็จะส่งตัวผู้ก่อเหตุและผู้ถูกกล่าวหาไปฟ้องศาล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]