กรุงเทพฯ 19 พ.ย. – กัลฟ์ เสนอขายไฟฟ้าให้ไทยจากเขื่อน 3 โครงการในลาว ระบุกฎหมายไทยยังไม่เอื้อเป็นชิปเปอร์นำเข้าแอลเอ็นจี ด้าน กกพ.เตรียมหารือ ปตท.หนุนไทยเป็นฮับแอลเอ็นจี
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทศึกษาลงทุนในหลายประเทศจากที่ปัจจุบันลงทุนแล้วในเวียดนามและโอมาน ซึ่งจะมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจะได้ถึง 10,000 เมกะวัตต์ใน 5 ปีหรือไม่ ก็คงจะต้องดูถึงความเหมาะสม โดยโครงการพลังน้ำใน สปป.ลาวกำลังพิจารณา 3 โครงการ กว่า 2,000 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการปากเบ่ง ปากเลย์ และซานาคาม ซึ่งจะลงทุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาขายไฟฟ้าให้ประเทศไทยได้หรือไม่ ตามข้อตกลงความร่วมมือซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวรวม 9,000 เมกะวัตต์
นายสารัชถ์ กล่าวด้วยว่า บริษัทยังไม่ได้เสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.ที่จะเป็นชิปเปอร์หรือเป็นผู้จำหน่ายและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพราะกฎหมายภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงานยังไม่เอื้ออำนวย ส่วนโครงการลงทุนสถานีรับจ่ายแอบเอ็นจีในเวียดนาม และโครงการร่วมทุนในท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 นั้น เป็นการลงทุนที่แยกกัน เพื่อป้อนความต้องการในประเทศเป็นหลักไม่เกี่ยวกับแผนงานประเทศไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG HUB) ของกระทรวงพลังงานแต่อย่างใด
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมเชิญบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มาหารือถึงแผนงานแอลเอ็นจีฮับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ หลังจาก ปตท.ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วม “โครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (Energy Regulatory Commission Sandbox :ERC Sandbox) ของ กกพ. เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการ Regional LNG Hub ของ ปตท. และโครงการการศึกษาและพัฒนาศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวผ่านสถานีรับจ่ายก๊าซแอลเอ็นจี ของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด
“กรณีให้ไทยเป็น LNG HUB แต่ในทางปฏิบัติควรจะต้องเกิดความชัดเจนด้านโครงการอัตราก๊าซฯ ของประเทศก่อน โดยเฉพาะเมื่อเอกชนรายอื่น ๆ นำเข้าจะมีสูตรคำนวนราคาก๊าซฯ อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้ารวมของประเทศ” นายเสมอใจ กล่าว
นอกจากนี้ กกพ.เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 16 ธันวาคมนี้ พิจารณาขยายระยะเวลากำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการที่ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามแผนในช่วงปี 2563-2564 กำลังผลิตรวมประมาณ 300 เมกะวัตต์ เช่น โรงไฟฟ้าขยะชุมชน และชีวมวล เป็นต้น ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ติดปัญหาการทำความเข้าใจกับชุมชน. – สำนักข่าวไทย