กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – ก.พลังงานเตรียมเสนอแผนเร่งด่วนเข้าที่ประชุมบอร์ด กพช.กลางเดือน ธ.ค.ทั้งปลดล็อคกฎระเบียบให้ไทยเป็นฮับแอลเอ็นจี กรอบโรงไฟฟ้าชุมชน การลด PM2.5 ด้วยการส่งเสริมน้ำมันชีวภาพ และส่งเสริมอีวี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมเร่งรัดนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพลังงาน โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกลางเดือนธันวาคมนี้ และหลายโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ทันทีในช่วงต้นปี 2563 ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โครงการศูนย์กลางการจำหน่ายแอลเอ็นจีในภูมิภาคนี้ โดยจะต้องมีการปลดล็อค หรือแก้ไขกฎระเบียบบางส่วน เพื่อให้ไทยเป็นฐานการจำหน่ายแอลเอ็นจี เนื่องจากมีความพร้อมทั้งที่ประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม คือ สถานีรับแอลเอ็นจีของ บมจ.ปตท.ที่พร้อมรับและส่งออกให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ นโยบายการส่งเสริมการลดฝุ่น PM 2.5 ก็จะเร่งดำเนินการทั้งรูปแบบการส่งเสริมน้ำมันชีวภาพให้ไบโอดีเซล บี 10 และแก๊สโซฮอล์ อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานหลัก เริ่มตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป พร้อม ๆ กับจะประกาศแผนการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่กระทรวงพลังงานจะวางพื้นฐานในด้านไฟฟ้าสนับสนุน ทั้งอัตราไฟฟ้าขายปลีกจำหน่ายแก่อีวี สถานีชาร์จไฟฟ้าต่าง ๆ ส่วนจำนวนรถไฟฟ้าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นจากการวางแผนเดิม 1.2 ล้านคันในปี 2573 หรือไม่ นั้น ก็คงจะต้องหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานได้เตรียมของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยจะประกาศได้ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน โครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มให้เหมาะสม มีความชัดเจนชี้แจงได้แก่ภาคประชาชน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการนำเข้าแอลเอ็นจี ของ กฟผ.แบบสป็อต ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางสนับสนุนฮับแอลเอ็นจี ซึ่งขอยืนยันว่านโยบายการนำเข้าแอลเอ็นจีของ กฟผ.นั้น เป็นไปตามกฎหมายกำหนดทุกประการ.-สำนักข่าวไทย