อาคารทูแปซิฟิค เพลส 10พ.ย.-กระทรวงแรงงาน-มูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ จัดบรรยาย ทิศทางการประกันสังคมของประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางผลักดันและพัฒนาด้านการประกันสังคม สุเทพ เชื่อ อนาคตกองทุนประกันสังคมเติบโต – มั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10พ.ย.)กระทรวงแรงงานพร้อมด้วยมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ร่วมกันจัดเวทีบรรยายเรื่อง “ความคิด ความเห็น : ทิศทางการประกันสังคมของประเทศไทย” เพื่อเป็นแนวทางในการผลักดันและพัฒนาด้านการประกันสังคม พูดถึงเรื่องบทบาทของโรงพยาบาลเอกชนในงานประกันสังคม รวมถึงแนวทางการปฏิบัติของสำนักงานประกันสังคมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศและประชาชนไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าวถึงการดำเนินการของมูลนิธิฯ ที่ต้องการปฏิรูปประเทศ ซึ่งตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ได้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลประชาชนทั้งเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่หลังวัยทำงาน แต่หากในช่วง 20-30 ปีที่จะถึงนี้ รัฐบาลไม่วางรากฐานการประกันสังคมให้ดี ก็จะทำให้ประเทศก็จะมีปัญหา ทั้งนี้มั่นใจว่า ในอนาคตกองทุนประกันจะมั่นคง มีเสถียรภาพ และเติบโตเป็นหลักประกันที่ดีของประเทศและประชาชนได้ และต้องการเห็นคนใช้บริการประกันสังคมที่เดินเข้าโรงพยาบาลแล้ว ได้รับการต้อนรับที่ดี มั่นใจในการเข้าไปใช้บริการ เมื่อรักษาเสร็จ โรงพยาบาลจะต้องได้เงินทันที ภายใน 15-30 วัน เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน
ด้านหม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงปัญหาจากกองทุนประกันสังคม ว่าการสำรองเงินจ่ายของระบบประกันสังคมนั้น ค่อนข้างที่จะล่าช้า ซึ่งเป็นมาตั้งแต่แรกที่มีระบบกองทุนนี้ ดังนั้นการแก้กฎหมายนี้ ต้องแก้ที่ระเบียบการดำเนินงานต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของการจัดงานครั้งนี้
ด้านนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เสนอแนวทางปฏิบัติของสำนักงานประกันสังคม 12 มาตรการ โดยเริ่มต้นจากการขับเคลื่อนของผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งมุมมองด้านลูกค้าหรือผู้รับบริการเป็นประชากรส่วนใหญ่ที่สำนักงานต้องดูแล และมุมมองเรื่องความมั่นคงสถานะการเงินของกองทุนประกันสังคมโดยเฉพาะการบริหารภายในของสำนักงาน ส่วนมาตรการ 12 แนวทาง คือ การยกระดับการบริการ ทั้งบริการทั่วไป บริการทางการแพทย์ รวมถึงทางการเงินให้มีมาตรฐานที่เท่าเทียมและเข้าถึงผู้รับบริการทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ,ออกแบบและพัฒนาสิทธิประโยชน์ตลอดจนประโยชน์ทดแทนเพื่อสนองต่อความหลากหลายของผู้ประกันตนบนความสมดุลของการบริหารจัดการด้านการจัดเก็บและจัดหารายได้รวมถึงการบริหารกองทุนที่ทันสมัย ,เพิ่มช่องทางและรูปแบบพิเศษในการให้บริการโดยการขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อให้เข้าสู่กลุ่มผู้ประกันตนอย่างทั่วถึง ,ทบทวนและให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์ประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนตามความต้องการเฉพาะ ,เพิ่มรูปแบบและขยายบริการรวมไปถึงสร้างกิจกรรมรูปแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มผู้ประกันตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ยังเสนอมาตรการการสร้างความต่อเนื่องและความมั่นคงของผู้สูงอายุต้องควบคู่กับการบริหารกองทุนเพื่อความยั่งยืน ที่ผ่านมาหากต้องการเชื่อมโยงของการให้บริการ ,เชื่อมโยงการให้บริการและตอบโจทย์ดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ,เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ,ปรับระดับการสื่อสารและทำงานเชิงรุกผู้ประกันตนทุกกลุ่ม โดยการเปิดระบบสายด่วน หรือ hot line ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโครงการ Healthy Thailand เพื่อพัฒนาระบบการประกันสุขภาพของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย