รัฐสภา 30 ต.ค.-“ชวน”สั่ง ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบกรณี”มงคลกิตติ์” หิ้วสารประกอบระเบิดเข้าสภาเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ สั่งเข้มรักษาความปลอดภัย ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ไม่ใช่เครื่องตรวจสารตั้งต้น และยังใช้งานได้ดี
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำสารตั้งต้นวัตถุระเบิดเข้ามาภายในรัฐสภา และอ้างเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดของรัฐสภาตรวจสอบไม่พบ พร้อมนำมาแถลงข่าว ว่า จะต้องตรวจสอบก่อน พร้อมตั้งคำถามว่า ใครมอบหมายให้นายมงคลกิตติ์ดำเนินการ ยอมรับว่าการตรวจสอบรักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภาไม่เข้มงวดเท่ากับทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากรัฐสภาเป็นสถานที่ที่มีบุคคลเข้าออกจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ก็ใช้ความคุ้นชินกับคนเข้าออก ด้วยความเข้าใจกัน แต่ระบบการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน
เมื่อถามว่าเหตุดังกล่าวจะทำให้คนอื่นเลียนแบบ และท้าทายรัฐสภาหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ยังไม่ขอวินิจฉัย เนื่องจากจะต้องไปตรวจสอบก่อน เช่นเดียวกับการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดกฎหมายใดหรือไม่ เพราะไม่สามารถวินิจฉัยเรื่องที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงได้
ด้าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังรับทราบเรื่องดังกล่าวนายชวน หลีกภัย ได้เรียกฝ่ายรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเข้าพบทันที เพื่อกำชับให้ ดูแลความปลอดภัยโดยรอบรัฐสภาอย่างเข้มงวด ซึ่งหากมีการนำวัตถุระเบิดเข้ามาในสถานที่ราชการถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา เพื่อดำเนินการกับนายมงคลกิตติ์ต่อไป
นพ.สุกิจ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่านายมงคลกิตติ์ รับงานมาจากบริษัทเอกชนมาขายของหรือไม่ และหลังจากที่ร่างจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร เสร็จแล้วจะนำเรื่องนี้ให้คณะกรรมการจริยธรรมตรวจสอบด้วย รวมทั้งจะร่างข้อบังคับในการแถลงข่าวเพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น ไม่ใช่ใครจะมาแถลงก็ได้
ขณะที่นายอภิรักษ์ บัวทอง เจ้าหน้าที่สำนักรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่าเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของอาคารรัฐสภา สามารถใช้การได้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งไว้สำหรับตรวจสารตั้งต้นหรือสารประกอบวัตถุระเบิด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบสารดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นคนละตัวกับที่นายมงคลกิตติ์นำมาแสดงโดยเครื่องนั้นเป็นเครื่องสำหรับตรวจสารตั้งต้น
นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสภาแล้วว่ามีการนำผงซีโฟร์ สีเหลือง ใช้ประกอบระเบิด แต่ไม่ใช่ระเบิดจริง ดังนั้นเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกภาพไว้หมดแล้ว หากเป็นผงระเบิดจริง เจ้าหน้าที่ต้องจับกุมไว้แล้ว ขอยืนยันว่า เครื่องตรวจวัตถุระเบิดยังเป็นไปตามมาตรฐานเดิม และ มาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบสภา ยังเป็นไปอย่างเข้มงวดและสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับสมาชิก เป็นไปตามมาตรฐานสากล .-สำนักข่าวไทย