“สมคิด” เปิดประชารัฐสร้างไทย นำร่อง 8 จังหวัดล้านนา

เชียงใหม่ 30 ต.ค. – 4 กระทรวงหลักร่วมกับแบงก์รัฐ ขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐสร้างไทย พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน นำร่องกลุ่มพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ออมสินเผยนำยุทธศาสตร์ 3 สร้าง มุ่งให้หลุดพ้นความยากจน ตั้งศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานราก 17 ศูนย์ ครอบคลุม 8 จังหวัดภาคเหนือ 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนา ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” โดยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างเข้าถึงแบบครบวงจร มุ่งดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการฯ และเกษตรกร ผู้ประกอบการราย่อยให้หลุดพ้นความยากจน  โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหารแบงก์รัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และภาคีเครือข่ายสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อดูแลรายย่อยระยะสั้นให้มีกำลังซื้อผ่านหลายมาตรการ ด้วยการช่วยเหลือต้นทุนการปลูกข้าว 2-3 เดือนที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ส่งเงินเข้าบัญชีช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว 34,000 ล้านบาท โครงการชิมช้อปใช้ เฟส 1 มีผู้ลงทะเบียน 10 ล้านคน และเฟส 2 ลงทะเบียนเกือบครบ 3 ล้านคน มีร้านค้ารายย่อยแห่งใหม่เข้าร่วมนับแสนราย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ  ในส่วนของการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อลดค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนองเหลือร้อยละ 0.01 จะทำให้มีแรงซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นในช่วงปลายปี  


นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า  ขณะนี้ภาคเอกชนยื่นขอสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนยอดลงทุนประมาณ  200,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มชาวบ้านร่วมหุ้น เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในชุมชน ลดปัญหาการเผาซังข้าวโพด ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 จึงซื้อซังข้าวโพดกิโลกรัมละ 70 สตางค์ เพื่อใช้ผลิตโรงไฟฟ้าชุมชน การส่งเสริมผลิตแก๊สหุงต้มใช้ในครัวเรือน การส่งเสริมติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร  ผ่านความร่วมมือทั้งกระทรวงพลังาน กระทรวงอุตสาหกรรม ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน คาดว่ามีเงินลงทุนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท  การพัฒนาอาชีพในชุมชน ทั้งช่างไฟฟ้า ซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ปาล์มน้ำมันผลิตบี 10 ใช้กับเครื่องมือเกษตร 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสหากรรม กล่าวชี้แจงว่า เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีทุนในการประกอบธุรกิจ ขณะนี้มีวงเงินสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท รองรับเกษตรแปรรูป เช่น สปา แฟชั่น สิ่งทอ เครื่องหนัง วงเงินกู้ระยะสั้น 3 ปี วงเงินกู้ 3 ล้านบาทต่อราย และวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 เวลาเงินกู้ 7 ปี เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ให้มีเงินทุนหมุนเวียน 

ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวบนเวทีว่า โครงการประชารัฐสร้างไทย จัดครั้งแรกใน 8 จังหวัดภาคเหนือ หลายหน่วยงานรัฐได้มุ่งช่วยเหลือรายย่อยเกษตรกร เช่น การนำที่ดิน ส.ป.ก.พื้นที่ 40 ล้านไร่ ที่มีอยู่พร้อมผลักดันนำมาจัดสรรให้กับเกษตรกรใช้ที่ดินทำกิน รัฐบาลพร้อมส่งเสริมบัตรสวัสดิการฯ เพื่อดูแลรายย่อยอย่างต่อเนื่อง 

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ชี้แจงบนเวทีว่า  การมอบนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการเงินให้แก่ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาความยากจนนั้น ธนาคารออมสินขับเคลื่อนนโยบายรัฐผ่านยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือ 1.สร้างอาชีพ สร้างความรู้ 2.สร้างตลาด สร้างรายได้ และ 3.สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนรายย่อยในระดับฐานราก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการฯ เข้าถึงการพัฒนาอาชีพ ได้ฝึกฝนและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อนำไปเป็นทุนประกอบอาชีพ ทำให้ประชาชนอาชีพนอกภาคเกษตรกรในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนสามารถข้ามเส้นความยากจนมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี คิดเป็น 33% และหลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งมีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อปี คิดเป็น 1% 

“เชิญชาวบ้านมาลงทะเบียนกับธนาคารออมสิน เพื่อส่งบัญฑิตอาสา เจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญ ออกไปช่วยเหลือดูแล หลังฝึกอบรมและเรียนรู้ไม่ยากระยะสั้น ได้แก่ ช่างประชารัฐ ช่างอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่างเอนกประสงค์  การทำตลาดออนไลน์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ โฮมสเตย์ ช่วยเหลือชุมชน ขณะนี้อนุมัติไปแล้ว 200 ร้านค้า เพื่อสร้างรายได้ผ่าน e-Commerce และ e-market เป็นช่องทางให้ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ  ด้วยการเปิดช่องทางการตลาด เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสขายสินค้าและบริการ ผ่านโครงการต่าง ๆ ของธนาคาร เช่น ตลาดประชารัฐสีชมพู ร้านค้าประชารัฐ และออมสิน e-Market Place ครอบคลุมช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้ง Online และ Offline สำหรับสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อให้ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ  โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ทำธุรกรรมทางการเงิน ซื้อ/ขาย ผ่าน QR Code เพื่อสร้างประวัติทางการเงิน หรือ Statement เพื่อเพิ่มความสะดวกและสามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้  ธนาคารออมสินได้ร่วมกับ บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เครือเบทาโกร และ Airbnb บริษัทชั้นนำของโลกด้านธุรกิจบริการที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน เป็นต้น” นายชาติชาย กล่าว 

ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเตรียมสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการประชารัฐสร้างไทย เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย และผู้มีรายได้น้อย ได้นำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ โดยใช้บุคคล หรือ บสย. เป็นหลักประกัน มีวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.50% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะผ่อนชำระเกิน 5 ปี (60 งวด) สามารถยื่นเรื่องขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งทั้งหมดจะมีศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานราก 17 ศูนย์ของธนาคารออมสิน ครอบคลุม 8 จังหวัดภาคเหนือ จะให้การสนับสนุนทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การให้คำปรึกษาทางการเงิน และเป็นแหล่งข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและสินค้าชุมชนด้วย รวมถึงเป็นศูนย์พัฒนาอาชีพด้วย โดยคาดว่าปีหน้าจะขยายเป็น 100 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นรูปธรรม. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย