สงขลา 22 ต.ค.- เจ้าอาวาสวัดเนินพิจิตรเล่าเหตุการณ์สร้างความขัดแย้งระหว่างหนังตะลุงคนดังกับคณะสงฆ์ ยืนยันไม่ถือโทษโกรธ ขณะที่ประชาคมชาวตำบลพิจิตรชัดเจน มีมติจะดำเนินคดีกับหนังน้องเดียวจนถึงที่สุด และไม่ให้หนังน้องเดียวเข้าไปแสดงในพื้นที่
ความคืบหน้าข้อพิพาทระหว่างนายหนังตะลุงชื่อดัง “หนังน้องเดียว” หรือนายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 12.08 นาที ต่อว่าพระสงฆ์รูปหนึ่ง เหตุเกิดที่วัดเนินพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา ด้วยถ้อยคำรุนแรง เมื่อ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้พระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ลงนามในหนังสือบันทึกข้อความขอความร่วมมือไปยังวัดต่างๆ ให้ระงับหรือยกเลิกการนำหนังตะลุงคณะหนังน้องเดียวเข้าไปแสดงพื้นที่วัด จนกว่าหนังน้องเดียวจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการขอขมาต่อคณะสงฆ์ และบันทึกคลิปการขอขมาโพสต์ลงใน YouTube และให้ลบโพสต์ที่กล่าวหาใส่ร้ายพระสงฆ์ออกด้วย
ล่าสุด พระครูโสตถิธาดา เจ้าอาวาสวัดเนินพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา เปิดเผยกับสำนักขาวไทย ว่าเมื่อ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โยมซึ่งเป็นเจ้าภาพทอดกฐินว่าจ้างหนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม หรือนายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง หนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ ไปแสดงเพื่อแก้บน สร้างความบันเทิง และระดมเงินทำบุญให้วัด โดยหนังน้องเดียวเป็นผู้กำหนดวันที่จะมาแสดงและทอดกฐินเองเป็นวันที่ 18 ตุลาคม
ระหว่างกำลังมีพิธีการสมโภชกฐิน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่คณะหนังตะลุงอยู่ระหว่างการวอร์มเครื่องเสียง วัดได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งเพื่อขอให้คณะหนังตะลุงเบาเสียง เพื่อทำพิธีสมโภช แต่กลับได้รับคำตอบกลับมาว่า จะดูหนังตะลุงหรือจะฟังพระสวดกันแน่ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการแสดงกันตามปกติ จนกระทั่งช่วงหลัง 20.00 น. มีญาติโยมภายในวัดโทรมาหาเจ้าอาวาส ซึ่งกำลังจำวัดบอกว่านายหนังเล่นหนังด่าพระอย่างหยาบคาย ซึ่งสืบสาวราวเรื่องก็ทราบว่ามีพระรูปหนึ่งได้ไปพูดคุยกับแม่ค้า ซึ่งเป็นทีมงานคณะหนังตะลุงถึงราคาค่าจ้าง เมื่อทราบ ก็บอกว่าแพง จึงเป็นที่มาของการด่าพระ ขณะทำการแสดง รวมถึงการอัดคลิป ซึ่งเจ้าอาวาสไม่ถือโทษโกรธนายหนัง ไม่คิดที่จะไปด่าหรือตอบโต้กลับ คนที่เป็นศิลปินควรจะมีจิตใจที่นิ่ง ไม่ไปตอบโต้คำด่าของคนอื่น
ส่วนกรณีหนังน้องเดียวบอกว่า จะกลับมาเล่นหนังตะลุงอีกครั้งที่วัดเนินพิจิตร เดือนมิถุนายน 2563 จากการตรวจสอบไม่มีใครจ้างมาเล่นแต่อย่างใด
ด้านชาวบ้านพื้นที่ ต.พิจิตร อ.นาหม่อม ทำประชาคมร่วมกัน และมีมติจะดำเนินคดีกับหนังน้องเดียวจนถึงที่สุด และไม่ให้เข้ามาแสดงหนังตะลุงในพื้นที่อีก.-สำนักข่าวไทย