จับตากรรมการวัตถุอันตราย แบน-ไม่แบน 3 สารเคมี

กทม. 19 ต.ค. – การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 22 ตุลาคมนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีการนำมติคณะทำงาน 4 ฝ่าย ที่ให้ยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2562 เข้าพิจารณาชี้ขาด ซึ่งมีกลุ่มเกษตรกรทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรื่องนี้จะลงเอยในรูปแบบไหนได้บ้าง และจะส่งผลกระทบอย่างไร ติดตามจากรายงาน 


หลายฝ่ายจับตาการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ หลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาระบุว่าได้ลงนามมติคณะทำงาน 4 ฝ่าย ที่ให้แบน 3 สารเคมี คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้มีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ 


ในหนังสือระบุว่า ก.เกษตรฯ ตั้งคณะทำงานพิจารณาเรื่องนี้ตามบัญชาของนายกรัฐมนตรีภายใน 60 วัน และมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำหนังสือแจ้งมติคณะทำงานให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย พิจารณานำเสนอคณะกรรมการฯ ว่าจะมีมติอย่างไร


ขณะที่กลุ่มเกษตรกรปลูกพืชอุตสาหกรรม ค้านมติ 4 ฝ่าย ระบุว่าขาดความชอบธรรม เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกรรมการที่คัดค้านการใช้สารเคมี ไม่มีตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิก ไม่มีตัวแทนผู้นำเข้าครบถ้วน และเตรียมยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองฉุกเฉิน หากกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด

  

อาจารย์บ้วน หรือ ทิดบ้วน บางปลาม้า นักวิชาการด้านการเกษตร ให้สัมภาษณ์ว่า มองเห็นเค้าลางความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้สารกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เนื่องจากยังไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจน ทั้งสตอกสารทั้ง 3 ชนิดที่ยังมีอยู่ เมื่อพ้นกำหนด 1 ธันวาคมนี้ ทั้งหมดจะกลายเป็นของผิดกฎหมาย ต้องทำลายทิ้ง ดังนั้นต้องมีมาตรฐานการควบคุมที่ถูกต้องและปลอดภัย อาจต้องจ่ายชดเชยให้บริษัทผู้นำเข้าหรือไม่ รวมทั้งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องวิธีการหรือสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่นที่จะนำมาใช้ทดแทน แม้จะมีการพูดถึงเกษตรอินทรีย์ แต่ควรให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เกษตรกร เพราะหากไม่มีความรู้ ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายพืชเช่นกัน  ทุกสิ่งล้วนต้องใช้งบประมาณไม่น้อย ขณะที่งานวิจัยเรื่องการตกค้างของสารพิษยังมีความไม่ชัดเจน แนะควรใช้มาตรการลด ละ เลิก จำเป็นต้องให้เวลาในการเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของภาครัฐ ผู้นำเข้า และเกษตรกร

ขณะที่ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย มองว่า 22 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายควรยกเลิกสารทั้งสองชนิดทันที คือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส แต่อาจขยายเวลาแบนสารไกลโฟเซตออกไป และต้องมีมาตรการลดผลกระทบให้เกษตรกรรายย่อย นอกจากนี้ยังต้องดูแลเกษตรกรกว่า 500,000 คน ที่ขึ้นทะเบียนการใช้ 3 สารนี้อย่างถูกต้องกับกรมวิชาการเกษตรไว้แล้ว และไม่เห็นด้วยหากนำสารเคมีชนิดอื่นมาใช้ทดแทน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาจมีกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชบางชนิด เช่น มันสำปะหลัง ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งรัฐควรเข้ามารับภาระ 

หากวันที่ 22 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด จะทำให้ตั้งแต่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป สตอกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ที่มีอยู่กว่า 40,000 ตัน ในจำนวนนี้อยู่ในมือเกษตรกว่า 10,000 ตัน จะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และต้องใช้งบประมาณดำเนินการกำจัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงบประมาณที่ใช้อบรมเกษตรกรไปแล้วกว่า 500,000 คน เพื่อขึ้นทะเบียนใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดอย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ก็จะสูญเปล่าทันที. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จ่อฟ้องศาลปกครอง ขอคุ้มครองฉุกเฉิน ระงับแบน 3 สาร

• “มนัญญา” ไม่หนักใจลงมติแบนสารเคมี 22 ต.ค.นี้

• “อนุทิน” ไม่เห็นด้วยให้นายกฯ ออก พ.ร.ก.ห้ามใช้สารเคมีเกษตร

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง

สาวสั่งทิชชูเปียก เจอ “ยาบ้า” ซุกในลำโพง 40,000 เม็ด

สาวสุดงง สั่งทิชชูเปียกในแอปดัง เอะใจกล่องหนักแปลกๆ เปิดออกมาแทบช็อกเจอ “ยาบ้า” และ “ไอซ์” โร่แจ้งผู้ใหญ่บ้าน-ตำรวจ มาตรวจสอบ