กรมวิชาการเกษตรเข้มมาตรการนำเข้าวัตถุอันตรายผ่านด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สั่งเข้มงวดมาตรการนำเข้าวัตถุอันตรายผ่านด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ สั่งพักใบอนุญาต-ดำเนินคดีผู้ประกอบการ 2 ราย ลักลอบนำเข้าไกลโฟเซต รวม 2 แสนลิตร มูลค่าเสียหาย 25 ล้านบาท สั่งขยายเวลาตรวจเข้มวัตถุอันตรายอีก 60 วัน ถึง 15 ก.ย.66


นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ พร้อมด้วย ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้อำนวยการกลุ่มสารวัตรเกษตร หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง หัวหน้าด่านตรวจพืชลาดกระบัง สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงาน ควบคุม ตรวจสอบการนำเข้า ส่งออก สินค้าพืชและวัสดุการเกษตร ตามนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ที่สั่งการให้กรมวิชาการเกษตร มีมาตรการเข้มงวดการนำเข้าวัตถุอันตรายผ่านด่านตรวจพืช

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่าได้สั่งพักใช้ใบอนุญาตนำเข้าวัตถุอันตราย ของบริษัทหนึ่งย่านปทุมธานี ที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ตรวจพบการนำเข้าสินค้าวัตถุอันตรายสารไกลโฟเซต ที่เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 23 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามมาตรา 45 (1) ประกอบ มาตรา 47 (1) (5) นำเข้าและครอบครองวัตถุอันตรายปลอม ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 7 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรณีนี้พบว่ามูลค่าการกระทำความผิดมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท เข้าลักษณะคดีพิเศษ กรมวิชาการเกษตร จึงประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าร่วมการสืบสวน ซึ่งจากการตรวจสอบพบของเหลวสีเหลือง ที่ผลตรวจพบว่าเป็นสารไกลโฟเซต จำนวน 721 ถัง ถังละ 200 ลิตร ปริมาณรวมทั้งสิ้น 144,200 ลิตร จึงสั่งอายัดไว้ เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการร้องทุกข์ต่อDSI ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และขอให้ริบของไว้เพื่อดำเนินการทำลายต่อไป นอกจากมีความผิดทางอาญาแล้ว ผู้ประกอบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะเชิญ DSI มาบรรยายให้ความรู้ ในแนวทางและกรรมวิธี ในการสอบสวนที่เข้มข้น แก่เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร


นอกจากนี้ ยังสั่งอายัด และขยายมาตรการเข้มงวดในการนำเข้าวัตถุอันตราย ผ่านด่านตรวจพืช เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าวัตถุอันตราย อีก 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 66 – 15 ก.ย. 66 สืบเนื่องจาก การที่กรมวิชาการเกษตรมีมาตรการดังกล่าว มาแล้ว 60 วัน และด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ได้ตรวจพบว่า  บริษัทแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ ได้ยื่นใบแจ้ง (การนำเข้าราชอาณาจักร/ส่งออกนอกราชอาณาจักร และนำเข้าออกจากด่านศุลกากร) แจ้งนำเข้าวัตถุอันตรายสาร Validamycin 3 % W/V SL ปริมาณการนำเข้า 48,000 ลิตร ว่ามีลักษณะของภาชนะบรรจุ 2 ลักษณะ เมื่อเปิดตรวจสอบพบสารที่เป็นของเหลวที่บรรจุในภาชนะถังพลาสติก 200 ลิตรมีสีแตกต่างกัน คือ ตรวจพบสารของเหลวสีเหลืองจำนวน 49 ถัง และ ของเหลวสีเขียวจำนวน 191 ถัง  ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สารสีเหลืองเป็นสารไกลโฟเซต เป็นการลักลอบนำเข้าไกลโฟเซต โดยการสำแดงเท็จ ในเอกสารประกอบการนำเข้า เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตามมาตรการจำกัดการใช้ไกลโฟเซต ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง กรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พักใช้ใบอนุญาตนำเข้า ดำเนินคดีอาญาตาม พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แจ้งศุลกากรดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ศุลกากร และ แจ้งความคดีอาญาในการสำแดงเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้มีเพจปลอมแอบอ้างใช้ชื่อ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” เพื่อจำหน่ายสินค้ากรณีดังกล่าว จึงมอบหมายให้สารวัตรเกษตร ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าดำเนินการตรวจสอบทันที โดยซื้อสินค้าเพื่อส่งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ หากพบว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จะขยายผลการจับกุมและดำเนินคดีต่อไป หากเกษตรกรซื้อสินค้ามาแล้ว สามารถประสาน สารวัตรเกษตรไซเบอร์ ของกรมวิชาการเกษตร ที่เบอร์ 063-2106252  เพื่อให้ข้อมูลดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ยังกำชับนายตรวจพืชต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้า ในคู่มือการปฏิบัติงานของพระราชบัญญัติกักพืชฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสินค้าที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค และที่เป็นวัตถุดิบในโรงงานผลิต  เช่น  มะพร้าวแก่ปอกเปลือก  และ กระเทียม รวมถึง การเฝ้าระวังโรคและศัตรูพืชที่อาจติดมากับสินค้าจนนำมาสู่การแพร่ระบาดของศัตรูพืชต่างถิ่นที่เข้ามาระบาด จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกร สภาพเศรษฐกิจ รวมถึงระบบการผลิตพืชภายในประเทศไทย


พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร เข้มงวดในการควบคุมการนำเข้า และส่งออกสินค้า ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภคภายในประเทศ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ผู้บริโภคต้องได้รับความปลอดภัยทางอาหาร บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพ ปราศจากสารพิษตกค้าง และปลอดภัยจากศัตรูพืช เกษตรกรได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร ในกลุ่มสารกำจัดโรค แมลงศัตรูพืช และสารกำจัดวัชพืช นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร ได้หารือ กับ หอการค้า ไทย – อิสราเอล และ บริษัท Seetrue ประเทศอิสราเอล ในความเป็นไปได้ที่จะนำเทคโนโลยีระดับสูง (AI) มาใช้ X-Ray ตรวจสอบสินค้าพืช ณ ด่านตรวจพืช

ในโอกาสนี้ อธิบดรมวิชาการเกษตรยังได้ร่วมปลูกต้นมะกอกโอลีฟบริเวณหน้าอาคารด่านตรวจพืชกรุงเทพอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย