กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – สาเหตุจากทีมช้างศึก ชนะ ยูเออี ในรอบ 15 ปี นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยกปัจจัยสำคัญ คือ สปิริตทีม และการเล่นที่มีระเบียบวินัย ส่วนจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ต่อไปได้หรือไม่นั้น เราไปดูเส้นทางกัน
หลังจากทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดสนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เฉือนชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปได้อย่างสนุก 2-1 จากลูกโหม่งของ ธีรศิลป์ แดงดา นาทีที่ 26 กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา นาทีที่ 51 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี นัดที่ 3 เมื่อค่ำวานนี้ (15 ต.ค.) ซึ่งเป็นชัยชนะของทีมช้างศึกต่อยูเออี ในรอบ 15 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ ทีมไทยไม่เคยชนะยูเออี นับตั้งแต่ปี 2004 ที่ทีมไทยเคยเปิดบ้านชนะไปได้ 3-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อปี 2004 ทำให้ตารางคะแนนกลุ่มจี ทีมไทย แข่ง 3 นัด มี 7 คะแนน นำเป็นจ่าฝูง ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ อากิระ นิชิโนะ เริ่มจากนัดแรกเปิดบ้านเสมอกับ เวียดนาม 0-0 เมื่อวันที่ 5 กันยายน ก่อนนัดที่ 2 บุกไปชนะ อินโดนีเซีย 3-0 เมื่อวันที่ 10 กันยายน และล่าสุดชนะ ยูเออี 2-1 เมื่อวานนี้
แม้ว่าจะมีคะแนนเท่ากับ เวียดนาม ทีมอันดับ 2 แต่ประตูได้เสียทีมไทยดีกว่า 1 ประตู ขณะที่ ยูเออี ที่เก็บชัยชนะรวด 2 เกมก่อนหน้านี้ ต้องหยุดสถิติชนะรวดด้วยแข้งช้างศึก ทำให้พวกเขาอยู่อันดับ 3 มี 6 คะแนน ส่วนอันดับ 4 มาเลเซีย มี 3 คะแนน จาก 3 นัด และ อินโดนีเซีย แข่ง 4 นัด ยังไม่มีคะแนน
จากชัยชนะเหนือยูเออี “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ยกย่องสปิริตอันแข็งแกร่ง ทั้งนักเตะ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้าน “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย มองว่า ปัจจัยที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในการเอาชนะ ยูเออี ในรอบ 15 ปี คือ เรื่องวินัย รวมถึงการเลือกนักเตะที่ลงไปเล่น ซึ่ง นิชิโนะ บอกให้ผู้เล่นทุกคนมั่นใจ และทำการบ้านของคู่แข่ง ทั้งจุดเด่น-จุดด้อย ก่อนสั่งนักเตะลงไปโจมตี
ส่วนเกมวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ที่จะไปเยือนมาเลเซีย กับวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่จะไปเยือนเวียดนาม นิชิโนะ ได้มอบหมายงานให้กับทีมงานไว้แล้ว และอาจจะมองหาผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีสไตล์การเล่นที่ต่างออกไปมาเสริมเพิ่ม
อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยคุมทีมชาติไทยลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย อย่าง “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน มองทีมไทยภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ ว่าวางแท็กติกการเล่นได้ดี และทีมชุดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ริมเส้นในการโจมตีคู่ต่อสู้ โดยเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ทีมไทยจะผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย หากรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ได้
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี
14 พฤศจิกายน 2562 เยือน มาเลเซีย
19 พฤศจิกายน 2562 เยือน เวียดนาม
26 มีนาคม 2563 เหย้า อินโดนีเซีย
4 มิถุนายน 2563 เยือน ยูเออี
9 มิถุนายน 2563 เหย้า มาเลเซีย
ซึ่ง 5 เกมที่เหลือของทีมไทยจากนี้ คือ 3 เกมที่ออกไปเยือน ถือว่าเป็นงานยาก ทั้งเยือนมาเลเซีย เวียดนาม และยูเออี แต่หากในเดือนพฤศจิกายนนี้ บุกไปชนะมาเลเซียและเวียดนามได้ จะทำให้สถานการณ์ทีมไทยมีโอกาสผ่านเข้ารอบสูง แต่ทั้งนี้ต้องดูผลการแข่งขันใน 2 เกมจากนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเกมชี้วัดกลายๆ ของทีมไทยได้ ว่าเส้นทางของทีม “ช้างศึก” จะก้าวต่อไปในทิศทางใด. – สำนักข่าวไทย