กาญจนบุรี 8 ก.ย. – “ทัพช้างศึก” พลาดป้องกันแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ หลังพ่ายทีมชาติอิรัก 0-1 ขณะที่ “อิชิอิ” ตำหนินักเตะอิรักฟาวล์ใส่ “เจ ชนาธิป” เป็นเรื่องที่เลวร้าย
“ทัพช้างศึก” ทำไม่สำเร็จ พ่ายทีมชาติอิรัก 0-1 พลาดป้องกันแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ขณะที่ “อิชิอิ” ตำหนิจังหวะ โมฮานัด อาลี ฟาวล์ใส่ “เจ ชนาธิป” ว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือสนามกลีบบัว ทีมชาติไทย แชมป์เก่า ลงสนามพบกับทีมชาติอิรัก แชมป์ปี 2023
เกมนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย เปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งจากเกมแรก โดยรูปเกมทั้งสองทีม สลับกันบุกและเข้าทำประตู
ครึ่งหลังเปลี่ยนตัวส่ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และเจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ลงสนาม ซึ่งรูปเกมดีขึ้น แต่นาทีที่ 75 อิรักได้ประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของ โมฮานัด อาลี อิรักนำ 1-0 จากนั้นอิรักเหลือ 10 คน จากจังหวะทำฟาวล์ของ ฟรานส์ ปูโตรส โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
ท้ายเกมทีมชาติไทยโหมบุกอย่างหนัก จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โมฮานัด อาลี คนทำประตูให้อิรัก เตะใส่ชนาธิปแบบไม่มีเจตนาเล่นฟุตบอล ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้อิรักเหลือผู้เล่น 9 คน แต่ช่วงเวลาที่เหลือทีมชาติไทยไม่สามารถทำประตูได้ จบเกมทีมชาติอิรัก ชนะ ทีมชาติไทย 1-0 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 พร้อมรับเงินรางวัล 2 ล้านบาท ทีมชาติไทย รองแชมป์ รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท
หลังจบเกม ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยอมรับว่า เกมนี้มีข้อผิดพลาด แต่น้องๆ ทุกคนสู้สุดหัวใจ พร้อมกล่าวถึงจังหวะถูกทำฟาวล์ว่าตลอดอาชีพนักฟุตบอลไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้มาก่อน เสียใจที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ด้าน อิชิอิ เปิดเผยว่า แม้จะไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ แต่รูปเกมและวิธีการเล่นในเกม ทุกคนสามารถทำผลงานออกมาได้ดี เชื่อว่าหากมีโอกาสให้ทีมชุดนี้ได้ซ้อมด้วยกันอย่างต่อเนื่องจะเป็นชุดที่ดีที่สุด และสามารถทำผลงานได้ดีในทัวร์นาเมนต์อื่นๆ แน่นอน
นอกจากนี้ อิชิอิ ยังกล่าวถึงจังหวะฟาวล์ของ โมฮานัด อาลี ที่เจตนาไม่เล่นฟุตบอล เตะใส่ชนาธิป ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีคลาส เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับฟุตบอลระดับนี้.-สำนักข่าวไทย