ศรีสุวรรณ ร้องป.ป.ช.สอบคฑาเทพ-มงคลกิตติ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สิน

สำนักงาน ป.ป.ช.23 ก.ย.- “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช.สอบ “คฑาเทพ-มงคลกิตติ์”  แจ้งทรัพย์สิน “เหล็กไหล-พระเครื่อง” เกรงสร้างมูลค่าลวง-เป็นช่องโหว่ฟอกเงินในอนาคต


เมื่อเวลา 13.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.  เพื่อไต่สวนสอบสวน และวินิจฉัยกรณีการแสดงรายการทรัพย์สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ราย คือ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย  และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์  ซึ่งได้แจ้งรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เป็นโคตรเหล็กไหลที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้าน  มหาเหล็กไหล มูลค่า 300 ล้านบาท  อุกกาบาต 10 ล้านบาท และพระเครื่องต่าง ๆ เช่น  พระกริ่งปวเรศทองคำ 50 ล้านบาท  พระสมเด็จวัดระฆัง 40 ล้านบาท พระสมเด็จไกเซอร์ 30 ล้านบาท  ซึ่งอาจเป็นการจงใจยื่นบัญชีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เป็นที่สงสัยและวิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมไทยเป็นอย่างมาก ว่า มูลค่าทรัพย์สินต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นการสร้างมูลค่าลวงขึ้นมาหรือไม่  ซึ่งอาจเข้าข่าย“ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย” ตามนัยยะของ ม.3 (5) ของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542  ซึ่งนักการเมืองอาจใช้เป็นข้ออ้างในการฟอกเงิน เพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินแบบหลอก ๆ ไปเป็นเงินสดในอนาคต  หากมีเงินสดหรือทรัพย์สินอื่นงอกเงยขึ้นมาเกินกว่ารายรับที่พึงมีในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็จะใช้เป็นข้ออ้างได้ว่าได้จำหน่ายพระเครื่องหรือวัตถุมงคลดังกล่าวออกไปในราคาแพงตามที่ตั้งมูลค่าไว้ 


นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า สมาคมฯ จึงนำความมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ออกระเบียบหรือกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ เพื่อปิดช่องโหว่ของการเลี่ยงบาลีในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน  ซึ่งหากนักการเมืองไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองมูลค่าของทรัพย์สินต่าง ๆ ได้  ก็สามารถชี้ได้เลยว่าเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยการกระทำของ 2 ส.ส.ว่าเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 109 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 114 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 หรือไม่ และหากพบว่าเป็นการฝ่าฝืน ให้ดำเนินการเอาโทษตาม มาตรา 167 คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แทงหนุ่มวิศวะ

จับได้แล้ว! เยาวชน 16 ปีมือแทงหนุ่มวิศวะดับชิงเสื้อช็อป

รวบ 3 โจ๋แทงหนุ่มวิศวะปี 4 ดับสลดขโมยเสื้อช็อป พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ มือแทงสารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย บอกจะบวชให้หลังออกคุก

สธ.มอบฟันเทียม 45,000 ราย เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

13 เมษายน วันผู้สูงอายุแห่งชาติ สธ.เปิดโครงการ “รอยยิ้มใหม่ผู้สูงวัย 2568” มอบฟันเทียม 45,000 ราย ส่งเสริมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

วัยรุ่นรุมแทง นศ.วิศวะดับ ปล้นเสื้อช็อป-มือถือ

ตำรวจไล่เช็กวงจรปิดตามล่าแก๊งโจ๋นับสิบ หลังก่อเหตุสลด! รุมแทงนักศึกษาวิศวะเสียชีวิต ขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนปล้นเอาเสื้อช็อปและมือถือหลบหนี

ค้นที่พักไฮโซเก๊ พบรูปภาพ-ชุดขาวประดับเครื่องหมายจัดเต็ม

ตำรวจกองปราบปรามขยายผลเพิ่ม ออกหมายจับไฮโซเก๊ อายัดตัวจากเรือนจำตรวจค้นที่พัก พบรูปภาพและชุดขาวประดับเครื่องหมายต่างๆ จัดเต็ม

ข่าวแนะนำ

ค้นหาร่างตึกถล่ม

ขุดเจาะตลอดคืน ค้นหาร่างผู้สูญหายเหตุตึกถล่ม

เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการขุดเจาะตลอดทั้งคืน เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบภัยที่สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม มุ่งเน้นโซน C เพราะเป็นจุดที่ถูกสันนิษฐานว่ามีผู้ติดค้างมากที่สุด

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น “ฝนตก-ลมแรง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศร้อนโดยทั่วไป ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ปิดทองหลังพระ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน

ข้าราชการ-กู้ภัยจิตอาสา ทำงาน 100% ช่วงสงกรานต์ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน