กทม. 30 มี.ค. – “เรืองไกร” ร้อง ป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ยื่น 4 ครั้งที่เพิ่มขึ้นยื่น 2 ส.ค. 54-7 ส.ค. 67 จาก 74 ล้านบาท เพิ่มเป็น 153 ล้านบาท เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. แต่ละครั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เข้าข่ายมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 115 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือดังขอให้ ป.ป.ช. พิจารณาตรวจสอบเป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อ 1 จากการนำบัญชีทรัพย์สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. จำนวน 4 ครั้ง มาเปรียบเทียบกันเฉพาะในส่วนของนายก่อแล้ว พิกุลทอง พบว่ากรณีวันที่ 2 สิงหาคม 2554 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 74,052,959.41 บาท กรณีวันที่ 9 ธันวาคม 2556 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 86,114,497.40 บาท กรณีวันที่ 8 ธันวาคม 2557 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 100,399,398.45 บาท และกรณีวันที่ 7 สิงหาคม 2567 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 153,035,103.61 บาท
ข้อ 2 จากตารางเปรียบเทียบที่แนบมาด้วยจะเห็นได้ว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งพอสมควร กรณีจึงมีเหตุควรสงสัยว่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมานั้นเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 115 หรือไม่
ข้อ 3 ทั้งนี้ เพื่อให้ ป.ป.ช. มีข้อมูลนำไปประกอบการตรวจสอบ จึงได้ค้นข่าวจากกูเกิล เพื่อให้ ป.ป.ช. รวมข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาด้วย ดังนั้น ข้อ 4 จึงขอให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบตามความในมาตรา 116 โดยนำตารางเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ไปพิจารณาเพื่อเทียบเคียงกับทรัพย์สินที่มีอยู่ในขณะดำเนินการไต่สวน ประกอบกับรายได้และรายจ่าย และการเสียภาษีเงินได้ของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ กกต. และที่ยื่นต่อกรมสรรพากรทุกปี มาประกอบการตรวจสอบด้วย.-319-สำนักข่าวไทย