รร.ฤทธิยะวรรณาลัย 8 ส.ค.-กระทรวงศึกษาฯ ร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยว เปิดห้องเรียนกีฬาใน 3 โรงเรียนให้เด็กเรียนฟรี เน้นเสริมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเเละจิตวิทยา เริ่มจากฟุตบอลเเละวอลเลย์บอล เล็งขยายผลต่อ
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการห้องเรียนกีฬาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อส่งเสริมเยาวชนที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬาในเเต่ละภูมิภาคได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้สามารถเเข่งขันกับนักกีฬาในระดับสากลได้ โดยนำการจัดการเรียนการสอนของห้องเรียนกีฬาใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกเเบบไว้มาประยุกต์ใช้ โดยเบื้องต้นเปิดเป็นห้องเรียนกีฬาฟุตบอล(ชาย)เเละวอลเลย์บอล(หญิง) ซึ่งผู้ฝึกสอนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ระดับนานาชาติ เเละเมื่อเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจะได้รับสิทธิ์เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่สถาบันการพลศึกษาต่อไป
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า การจัดตั้งห้องเรียนกีฬา เป็นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดถึงเเละอยากจัดให้ห้องเรียนขึ้น เพราะกีฬา ช่วยสร้างคนสร้างชาติ สอนให้รู้จักความอดทน รู้เเพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ช่วยให้เด็กมีสุขภาพดี พัฒนาประเทศชาติได้ในอนาคต ถึงเเม้ที่ผ่านมาเด็กไทยจะมีทักษะทางกีฬา เเต่ไม่มีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดี โครงการนี้เน้นด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ เเละจิตวิทยา โดยเริ่มต้นจาก 3 โรงเรียน เเต่ในอนาคตจะขยายไปอีกหลายโรงเรียนอย่างเเน่นอน
ด้านนางกอบกาญจน์ กล่าวว่า โครงการนี้จะพัฒนาเยาวชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นำไปสู่การกีฬาเพื่อคนทั้งปวง ดึงคนทุกกลุ่มมาเห็นความสำคัญของกีฬามากขึ้น
สำหรับโครงการห้องเรียนกีฬาจะเปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาในระดับชั้นม.4 เพื่อศึกษาต่อในเเผนการเรียนวิทยาศาสตร์-กีฬา เเละศิลปศาสตร์-กีฬา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ใน 3 โรงเรียนคือ รร.สุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย ,รร.สารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม เเละรร.กาญจนาภิเษกวิทยาลัย จ.กระบี่ โรงเรียนละ 80 คน
ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดจากเว็บไซต์ www.obec.go.th เเละสมัครเรียนได้ตั้งเเต่วันที่ 8-31 สิงหาคมนี้ ในอนาคตหากมีการขยายโครงการไปสู่โรงเรียนอื่น จะรับนักเรียนจบการศึกษาชั้นม. 3 เพื่อศึกษาต่อในระดับชั้นม.4 เทอม 1ต่อไป ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการไม่เสียค่าใช้จ่าย .-สำนักข่าวไทย