วอชิงตัน 21 มี.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารยุบกระทรวงศึกษาธิการตามที่ได้หาเสียงไว้
นายทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเรื่องการยุบกระทรวงศึกษาธิการ โดยสั่งการให้ลินดา แมคมาห์น รัฐมนตรีศึกษาธิการ ดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การปิดกระทรวงศึกษาธิการ และคืนอำนาจการศึกษากลับไปสู่ระดับรัฐ รวมถึงให้เดินหน้าสร้างความมั่นใจว่า การให้บริการด้านการศึกษาที่ชาวอเมริกันต้องการจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น อย่างไรก็ดี คำสั่งนี้ไม่ได้ถึงกับยกเลิกกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมดเสียทีเดียว โดยจะยังให้คงการทำงานของหน่วยงานบางอย่างที่สำคัญเอาไว้อยู่
นายทรัมป์ระบุในคำสั่งว่า การที่รัฐบาลกลางควบคุมการศึกษาได้สร้างความผิดหวังให้แก่นักเรียน ผู้ปกครองและครูอาจารย์ กระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณไปแล้วมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 100 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 แต่ไม่ได้ยกระดับความสำเร็จของนักเรียนเมื่อวัดจากผลคะแนนสอบมาตรฐาน โดยก่อนที่จะก่อตั้งกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุข การศึกษา และสวัสดิการของสหรัฐ ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 1953-1979
ปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐดูแลโรงเรียนรัฐบาลราว 100,000 โรง และโรงเรียนเอกชนราว 34,000 โรง งบประมาณของโรงเรียนรัฐบาลมากกว่าร้อยละ 85 มาจากรัฐบาลระดับรัฐและระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังดูแลเรื่องเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษามูลค่าของชาวอเมริกันหลายล้านคนจำนวน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 53.75 ล้านล้านบาท)
นายทรัมป์เคยเสนอปิดกระทรวงศึกษาธิการเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ครั้งนั้นรัฐสภาไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งนี้การปิดหน่วยงานระดับกระทรวงของรัฐบาลกลางจะกระทำได้ต่อเมื่อรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายให้ปิด ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจาก สมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 60 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองเสียงในวุฒิสภา 53 เสียง จึงต้องหาเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตอีก 7 เสียง ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะสนับสนุนการยุบกระทรวงศึกษาธิการ
สัปดาห์ที่แล้วอัยการสูงสุดจาก 20 รัฐและเขตปกครองพิเศษ กรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในนครบอสตัน ให้ขัดขวางการปิดกระทรวงศึกษาธิการและแผนการเลิกจ้างลูกจ้างมากกว่า 1,300 คน จากทั้งหมด 4,133 คน ตามนโยบายลดขนาดรัฐบาลกลางของรัฐบาลทรัมป์ ส่วนบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต่างเป็นห่วงว่า การปิดกระทรวงศึกษาธิการในทันที อาจอาจส่งผลกระทบต่อเงบประมาณช่วยเหลือหลายหมื่นล้านดอลลาร์สำหรับโรงเรียนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย และความช่วยเหลือด้านค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาในระดับวิทยาลัย.-815.-สำนักข่าวไทย