กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำท้ายแม่น้ำมูลแล้ว 195 เครื่อง เร่งติดตั้งให้ครบ 260 เครื่องตามแผน ลดระดับน้ำท้ายลำน้ำมูล รองรับฝนที่คาดว่า จะตกลงมาระลอกใหม่ในอีก 2 วันข้างหน้า
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ผู้บัญชาการศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี – มูล (ส่วนหน้า) จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น จากแผนติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำมูลตอนล่างรวมทั้งสิ้น 260 เครื่อง ปัจจุบันติดตั้งพร้อมเดินเครื่องแล้ว 195 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งที่บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร 60 เครื่อง ซึ่งติดตั้งเสร็จทั้งหมดแล้วแล้ว ส่วนอีก 200 เครื่องติดตั้งที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอโขงเจียมซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งพร้อมเดินเครื่อง 135 เครื่อง โดยจะเร่งดำเนินการติดตั้งส่วนที่เหลือจนครบเพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำ เตรียมพร้อมหากมีฝนตกในช่วง 20-21 กันยายนนี้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา
สำหรับการระบายน้ำจากแม่น้ำมูลลงแม่น้ำโขงยังสามารถระบายได้ดี ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับต่ำกว่าเขื่อนปากมูล 2.10 เมตร ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่อำเภอโขงเจียมลดลงเฉลี่ยวันละประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร ส่วนที่สถานีวัดน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ 20 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับวันที่ปริมาตรน้ำสูงสุดมาถึงลดลงถึง 60 เซนติเมตรแล้ว ล่าสุดระดับน้ำฝั่งอำเภอวารินชำราบสูงกว่าตลิ่ง 3.37 เมตร ทั้งนี้อัตราการลดของระดับน้ำเมื่อเทียบกับแบบจำลองสถานการณ์น้ำพบว่า ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า อุทกภัยลุ่มน้ำมูลจะคลี่คลายภายในสิ้นเดือนนี้แน่นอน
“กรมชลประทานได้ศึกษาแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูลไว้แล้ว โดยตลอดลำน้ำชีจะหาที่ลุ่มต่ำทำเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ ส่วนลำน้ำมูลศึกษาทางผันน้ำทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำ โดยฝั่งอำเภอวารินชำราบซึ่งเป็นแอ่งกะทะ น้ำท่วมซ้ำซากจะลดปริมาตรน้ำที่ไหลผ่านโดยทำทางผันน้ำตั้งแต่หน้าเขื่อนยโสธร จังหวัดยโสธรมายังท้ายแม่น้ำมูลที่อำเภอโขงเจียม ส่วนฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานีจะทคลองผันน้ำลดปริมาตรน้ำที่ไหลผ่านเพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ย้ำให้เร่งศึกษาด่วนที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำมูล” นายทองเปลวกล่าว
ด้านนายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่นำกระสอบทราย 400 ใบไปจัดทำแนวกั้นน้ำ ระดับกระสอบสูง 1.30 เมตร แล้วใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากถนนหน้าบริเวณวัดหลวง อำเภอเมืองอุบลราชธานีเพื่อเปิดทางให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำในเขตอำเภอสว่างวีระวงศ์ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่องเพื่อช่วยเหลือและให้บริการชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยที่บริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ รวมทั้งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม นำน้ำดื่มและอาหารแห้งไปมอบให้แก่ประชาชนบ้านกุดชุม หมู่ 1 บ้านหนองกินเพล หมู่ 3 และหมู่ 8 อำเภอวารินชำราบ นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 100 ครัวเรือน จำนวน 500 คนที่บ้านโนนยาง ตำบลนาคาย อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานีด้วย . – สำนักข่าวไทย