กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – รมว.คมนาคมสั่งรื้อแผนฟื้นฟู ขสมก. ทั้งจำนวนรถจัดหาและวิธีบริหารหนี้แสนล้านบาท
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมร่วมผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยระบุว่าได้ขอให้ ขสมก.ไปจัดทำและทบทวนแผนใหม่ทั้งหมด ก่อนเสนอให้พิจารณาอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยขอให้ลงรายละเอียดทั้งจำนวนรถและชนิดเชื้อเพลิงของรถแต่ละประเภทที่จะจัดหา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจัดหารถเมล์ ขสมก.ในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ระบุว่าจากข้อมูลเบื้องต้นยืนยันว่ารถที่ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวียังเป็นรถต้นทุนต่ำที่สุดในการจัดหาและบริหารการเดินรถ รวมทั้งในอนาคตการจัดหาจะมีลักษณะล็อตใหญ่และทยอยรับมอบ เพื่อวิ่งให้บริการประชาชน
ส่วนก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเคยพิจารณาจะเพิ่มสัดส่วนรถเมล์ใช้พลังงานไฟฟ้า หรืออีวี จะส่งผลให้การปรับแผนดังกล่าวเพิ่มสัดส่วนรถอีวีมากขึ้นจากแผนเดิมที่มีสัดส่วน 35 คันหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขอศึกษารายละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ การปรับแผนฟื้นฟู ขสมก.กระทรวงคมนาคมยังมอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปพิจารณาแนวทางการบริหารหนี้ที่มีมากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้แผนฟื้นฟูกิจการได้ศึกษาแนวทางที่จะให้กระทรวงการคลังเข้ามาช่วยรับภาระหนี้ที่เกิดจากการให้บริการเชิงสังคม แต่การปรับแผนครั้งนี้กระทรวงคมนาคมขอให้มีแนวทางบริหารหนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการปรับแผนเพื่อพิจารณารายละเอียดของการจัดหารถเมล์ ขสมก.ดังกล่าวคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งจำนวนรถและชนิดของเชื้อเพลิง รวมถึงวงเงินที่จะจัดซื้อ ดังนั้น คาดว่าจะมีการเสนอให้ ครม.พิจารณาปรับวงเงินและแนวทางจัดหาใหม่อีกครั้ง หลังจากกระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปแล้ว
สำหรับการจัดหารถเมล์ของ ขสมก.เดิม เป็นการจัดหารถโดยสารใหม่รวม 3,000 คัน วงเงินลงทุน 21,210.343 ล้านบาทแทน โดยขณะนี้ ขสมก.ดำเนินการจัดหารถใหม่แล้ว 489 คัน วงเงิน 1,891.452 ล้านบาท ส่วนแผนงานที่เหลือ ขสมก.จะดำเนินการปรับปรุงสภาพรถโดยสารเอ็นจีวี (เดิม) 323 คัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเดือนมกราคม 2563, การเช่ารถโดยสารเอ็นจีวี 300 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 2 และลงนามในสัญญาไตรมาส 3 ปี 2562 และจะทยอยรับรถได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ถึงกรกฎาคม 2563, เช่ารถโดยสารไฮบริด 400 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 2 และลงนามในสัญญาไตรมาส 3 ปี 2562 และจะทยอยรับรถได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ถึงสิงหาคม 2563, ซื้อรถโดยสารไฟฟ้า (อีวี) 35 คัน ระยะที่ 1 คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 3 และลงนามในสัญญาไตรมาส 4 ปี 2562 และจะรับรถเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 และลงนามในสัญญาไตรมาส 3 ปี 2563 และจะรับรถได้เดือนพฤศจิกายน 2564
การจัดซื้อรถโดยสารไฮบริด 700 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 และลงนามในสัญญาไตรมาส 2 ปี 2563 และจะรับรถได้ช่วงเดือนตุลาคม 2563 – ตุลาคม 2564 ซื้อรถโดยสารไฮบริด 753 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 และลงนามในสัญญาไตรมาส 2 ปี 2564 และจะรับรถได้ช่วงเดือนตุลาคม 2564 – ตุลาคม 2565.-สำนักข่าวไทย