มอบนโยบายผู้บริหารระดับสูงช่วยเกษตรกร

เมืองทองธานี 8 ส.ค. – “จุรินทร์” มอบนโยบายรัฐบาลผู้บริหารระดับสูง ลุยช่วยเกษตรกรและแก้อุปสรรคปัญหาร่วมทุกฝ่าย ขอกรมศุลกากรตรวจน้ำมันปาล์มหก พร้อมแจ้งผู้ว่าทุกจังหวัดเช็คสินค้าท้องถิ่นจดสิทธิ GI โดยโมบายเคลื่อนที่ไปบริการ 


นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการประชุมชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง ที่อิมแพคเมืองทองธานี โดยประกาศใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร รัฐบาลเขียนเป็นนโยบายเร่งด่วนชัดเจน มีพืชสำคัญ 5 ตัวคือ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์ม ยางพารา และ ข้าวโพด โดยใช้ส่วนต่างของราคาเพื่อช่วยเกษตรกร 

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ เอกชนและตัวแทนเกษตรเมื่อวานที่ผ่านมาได้ข้อสรุปประกันรายได้ปาล์มน้ำมันที่กิโลกรัมละ 4 บาทที่น้ำมัน 18% โดยจัดประกันรายได้ให้ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย การคิดคำนวณส่วนต่างนี้ดำเนินโดยคณะกรรมการฯ แล้วโอนผ่านเงินส่วนต่างเข้าบัญชีของเกษตกรโดยตรงด้วยธนาคาร ทุกระยะ 3 เดือน แต่ถ้าสถานการณ์ราคาปาล์มสูงกว่าหลักรายได้ที่ประกันเกษตรสามารถขายได้ราคาที่ไม่มีเงินส่วนต่างไม่มีภาระงบประมาณ 


ทั้งนี้ ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลโดยจะมีมาตรการเสริมเข้ามาทำให้ราคาดีขึ้น หากราคาดีขึ้นก็จะลดภาระรัฐบาล แต่ถ้าราคาเกินรายได้ที่ประกันรัฐบาลก็จะไม่มีภาระงบประมาณ แต่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และพร้อมมาตรการใช้ไบโอดีเซล ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานที่จะร่วมผลักดันมาตรการใช้น้ำมันบี 10 เป็นภาคบังคับโดยเปลี่ยนจากน้ำมันบี7 เป็นบี 10 ให้ได้ และต้องขอบคุณนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หากสามารถใช้มาตรการร่วมกันได้จะทำให้ราคาปาล์มผลผลิตเข้าสู่ดุลยภาพ อีกมาตรการคือ นำปาล์มไปใช้เป็นเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นมติจากคณะรัฐมนตรีชุดก่อนหน้านี้แต่ยังสามารถทำต่อเนื่องได้ ซึ่งจะได้รับความร่วมมือจากกระทรวงพลังงานการแก้ไขปัญหาจะเดินหน้าได้

ส่วนมาตรการต่อมา คือ การนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่เปลี่ยนเป็นการส่งออกผ่านไปประเทศที่ 3 นั้น ซึ่งในกรณีนี้เรียกว่า “น้ำมันปาล์มหก” เหลือไว้ในประเทศทำให้มีการมากดราคาผลปาล์มในประเทศเพราะการรับซื้อจะน้อยลง ดังนั้นจึงฝากกรมศุลกากร ให้ช่วยตรวจสอบตัวเลขการนำเข้ากับการส่งออกไม่ให้เกิดปัญหา มาตรการต่อมา คือ การกำกับสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มที่ฟอกแล้วจะใช้เครื่องมือทางอิเล็คทรอนิกส์ หรือ ใช้เกวัด เข้ามาตรวจวัดแทนการใช้กำลังคนเพื่อมาตรฐานการตรวจสอบที่แม่นยำ


นอกจาก น้ำมันปาล์มแล้วยังได้สั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดูและหามาตรการช่วยเหลือผลไม้ อื่นๆ ที่จะออกสู่ตลาดทั้ง ลำไย ทุเรียนและหลายชนิดให้สามารถกระจายไปจังหวัดต่างๆให้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งเร่งผลักดันส่งออกตลาดผลไม้เหล่านี้ให้รวดเร็วเช่นกัน ซึ่งตลาดผลไม้ไทยดังกล่าวพึ่งพาการส่งออกและตลาดใหญ่ โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน แต่เกิดปัญหา คือ ตอนนี้ทางประเทศจีนเริ่มขึ้นผลักดันมาตรฐานผลไม้และสินค้าเกษตรส่งออกโดยขอเอกสาร GAT หรือมาตรฐานสินค้า เอกสารนี้กระทรวงเกษตรเป็นผู้ออกโดยกรมวิชาการเกษตร แต่ที่ผ่านมามีเกษตรกรจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ส่งออก อยากให้เร่งรัดดำเนินการออกเอกสาร ในทางที่ไม่ต้องการให้เรื่องนี้ติดเป็นคอขวดเพราะจะกลายเป็นปัญหาต่อการส่งออก จึงขอให้กระทรวงเกษตรไปดำเนินการแก้ไขปัญหา และขอฝากเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือ เซฟการ์ด กรณีสินค้าที่นำเข้ามาอย่างผิดปกติสามารถใช้มาตรการนี้ตรวจสอบได้เพื่อไม่ให้กระทบกับสินค้าเกษตรภายในประเทศแต่กระทรวงเกษตรจะต้องเป็นผู้ดำเนินการออกมาตรการนี้ ขอให้ดำเนินการโดยเร่งรัด

ส่วนมาตรการด้าน การส่งออกสินค้าและบริการ ซึ่งแม้เป็นโจทย์ยากท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนแต่เป็นเรื่องที่จะต้องทำนอกจากตั้งยุทธศาสตร์รักษาตลาดเดิมขยายตลาดเดิมแล้ว ต้องเพิ่มตลาดใหม่และพื้นตลาดเก่า เช่น ตลาดข้าวอิรัก กับการเปิดตลาดที่จอร์แดน เซาท์แอฟริกา อินเดีย เป็นต้น และสิ่งสำคัญ คือ การเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนเพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกที่เร็วได้อีกทางหนึ่งเป็นช่องทางที่มีศักยภาพถ้าหากได้รับความร่วมมือในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตจังหวัดชายแดน โดยจะบูรณาการร่วมทุกประเทศที่เกี่ยวข้องและทุกฝ่ายซึ่งอยู่ในองค์การประโยชน์ของประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งที่ติดขัดให้สามารถผ่านไปได้

อย่างไรก็ตาม ยังขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ช่วยรวบรวมจัดทำบัญชีรายการสินค้าท้องถิ่นของตนเองที่เป็นสินค้าสุดยอด และเป็นสินค้ามาจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ จีไอ ให้เข้ามาเป็นสินค้าเด่นเพื่อสร้างมูลค่าสินค้าเหล่านี้ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะให้กระทรวงพาณิชย์จัดรถโมบายไปให้บริการประชาชน อำนวยความสะดวกถึงที่กันต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม จับตาเส้นทาง “พายุวิภา”

20 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม “จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา” จับตาเส้นทาง “พายุวิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน 21-22 ก.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยุ่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองจ้านเจียง […]

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]