กรุงเทพฯ25ส.ค.- “จตุพร” ควง “สุชาติ” นำพาณิชย์ลงพื้นที่จันทบุรี ผนึกกำลังทุกภาคส่วน เร่งแก้ปัญหาลำไย-ค้าชายแดน-แรงงาน-อัญมณี จ่อถกทูตจีน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี(23ส.ค.)ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและปัญหาการส่งออกลำไย ณ สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 ต.หนองบัว อ.เมือง จันทบุรี หารือถึงข้อเสนอจากภาคเอกชนในพื้นที่ อาทิ สถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการค้าของจังหวัดจันทบุรีที่ชะลอตัวจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ การขาดแคลนแรงงานในสวนลำไย และปัญหาการตรวจพบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ในลำไยส่งออกไปจีนเกินมาตรฐาน จนถูกตีกลับหลายตู้สินค้า ส่งผลให้ล้งรับซื้อหยุดชะลอการดำเนินงาน และเกษตรกรขาดสภาพคล่องทางการเงิน
นายจตุพร กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้และพร้อมบูรณาการทำงานร่วมทุกภาคส่วน โดยในสัปดาห์หน้าจะหารือกับเอกอัครราชทูตจีน เพื่อผลักดันให้มีทางออกที่เหมาะสมในการส่งออกลำไยไทย แม้จะเป็นเรื่องไม่ง่ายเพราะเป็นกฎของทางการจีน แต่รัฐบาลไทยต้องเร่งเจรจาเพื่อให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ ขณะเดียวกันยังมีมาตรการเร่งระบายผลผลิตภายในประเทศภายใต้นโยบาย ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย’ รวมถึงเร่งหาตลาดใหม่และส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า
อีกทั้งยังจะประสานงานกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและการค้าภายในประเทศ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดจันทบุรีจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยย้ำว่าการแก้ปัญหาต้องทำอย่างจริงจัง ไม่แบ่งฝ่ายการเมือง และไม่ปล่อยให้ข้าราชการเกียร์ว่าง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้
นอกจากได้เยี่ยมชมการซื้อขายพลอย ณ ตลาดกลางพลอยนานาชาติ และประชุมหารือกับผู้ประกอบการ ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี พร้อมเยี่ยมชมการเจียระไนพลอยโดยช่างฝีมือในท้องถิ่น รวมถึงห้องปฏิบัติการวิเคราะห์และวิจัยอัญมณีของมหาวิทยาลัยบูรพา
นายจตุพร กล่าวว่า จันทบุรีถือเป็น “เมืองหลวงแห่งอัญมณีของโลก” ที่มีชื่อเสียงยาวนาน แต่ปัจจุบันเผชิญความท้าทายจากปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน ซึ่งต้องนำเข้าจากประเทศโมซัมบิกและประเทศอื่นๆ ขณะที่ตลาดหลักอย่างจีนชะลอตัวหลังวิกฤตโควิด-19 และยังมีมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการค้า ทำให้ภาคเอกชนจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ รองรับ
ด้านผู้ประกอบการในพื้นที่ยังได้เสนอแนวทางเพิ่มเติม อาทิ การสนับสนุนการจัดแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ การเชิญผู้ซื้อที่มีศักยภาพมาเยือนจันทบุรี และการส่งเสริมภาพลักษณ์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น การขึ้นบอร์ดแนะนำ “พลอยจันทบุรี” ที่สนามบิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ซื้อ
“สิ่งที่เราต้องการคือการขับเคลื่อน ‘จันทบุรีโมเดล’ ให้เป็นรูปธรรม โดยจังหวัดและทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสร้างโรดแมปเพื่อผลักดันให้จันทบุรีก้าวสู่มหานครอัญมณีโลกอย่างยั่งยืน” นายจตุพร กล่าว .- 511 -สำนักข่าวไทย