ตรัง 7 ส.ค. – ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย อสมท รับแจ้งจากชาวบ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เดือดร้อนหนักจากปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบ้านเรือนที่เหลืออีกกว่า 10 หลัง เสาไฟฟ้า และต้นมะขามอีกหลายต้น รอวันถึงคิวพังทลายลงในทะเล เกินหน่วยงานระดับ อบต.จะรับมือแก้ไข รอหน่วยงานระดับสูง เหลียวแลหาทางแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (6 สค.) พบสภาพชาวบ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ไม่น้อยกว่า 11 ครัวเรือน กำลังเผชิญกับปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงมายาวนาน ถูกคลื่นซัดพังเสียหายจมในทะเลทีละหลัง ต้องถอยร่นขึ้นบกไปเรื่อยๆ แต่ขณะนี้บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมชายหาดที่ต้องเผชิญกับคลื่นเป็นแนวยาว กำแพงบ้านพังเป็นแถบ ข้าวของเครื่องใช้ถูกคลื่นซัดเอียง รอวันล้มทั้งหลังในอีกไม่ช้า เสาตอม่อของบ้านลอยอยู่เหนือทราย บางส่วนบริเวณด้านหน้าถูกคลื่นซัดพื้นบ้านหายไปจนเกือบจะถึงตัวบ้าน เสาไฟฟ้าถูกคลื่นซัดกลืนหายลงไปในทะเลแล้วหลายต้น อีกไม่กี่ต้นที่กำลังรอวันล้ม ต้นมะขามยักษ์ถูกคลื่นซัดจนรากลอยเหนือพื้นทราย รอวันล้มเช่นเดียวกัน ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ริมชายหาดไม่กล้านอนหลับในตอนกลางคืน ช่วงที่เป็นน้ำใหญ่ หรือเกิดลมมรสุม ต้องอพยพเด็กและคนแก่ไปอยู่บ้านญาติ บางหลังต้องทิ้งบ้าน ไม่กล้านอนในตอนกลางคืน กลัวคลื่นซัดพังทั้งหลัง
สอบถามทราบว่า เดิมทางจังหวัดมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นประมาณ 230 เมตร แต่ถูกคลื่นซัดหายไป ต่อมาทาง อบต.เกาะลิบง เจ้าของพื้นที่ ป้องกันชะลอปัญหาและความรุนแรงของคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งด้วยการนำไม้โกงกางมาปักเป็นแนวยาวเพื่อลดความรุนแรงของคลื่น แต่เอาไม่อยู่ ขณะนี้เกินขีดความสามารถของ อบต.ในพื้นที่จะทำการแก้ไขโดยงบประมาณของ อบต.แล้ว ชาวบ้านต่างหวังพึ่งหน่วยงานระดับจังหวัด หรือระดับกรม และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ แต่ผ่านมาหลายปี มีคนลงมาตรวจสอบและรับปากจะดำเนินการแก้ไขให้ทุกปี แต่สุดท้ายก็ยังไร้วี่แวว มาถึงปีนี้ฤดูมรสุมเวียนมาอีกครั้ง ประชาชนหมดที่พึ่ง
นายอะหรี จิเหลา อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 55/3 หมู่ที่ 5 และนางมินะ จิเหลา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 5 กล่าวว่า พวกตนและเพื่อนบ้านคนอื่นอีกรวม 11 หลังคาเรือน เดือดร้อนกันอย่างหนักมาแล้วประมาณ 10 ปี เคยเรียกร้องจนบ้านพังเสียหายไปแล้วหลายหลัง เสาไฟฟ้าล้มไปแล้วหลายสิบต้น คลื่นซัดดินหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 เมตร จนรุกเข้าถึงตัวบ้านที่เหลือ จนหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ปีนี้บอกว่าในปีงบประมาณ 2562 จะได้งบมาทำ แต่ก็ไม่ได้อีก ขณะนี้มรสุมใหญ่ยังไม่เกิด แต่จะมาถึงจริงๆ ประมาณกันยายน-ตุลาคม เกรงว่าจะรุนแรงมาก บ้านเรือนต้องพังทั้งหลังแน่นอน. – สำนักข่าวไทย