สงขลา 1 ส.ค.- เมื่อต้นสัปดาห์ โรงงานแปรรูปทุเรียนแช่แข็งของนักลงทุนชาวจีน ที่มาลงทุนตั้งโรงงานในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เปิดรับซื้อทุเรียน และเริ่มเดินเครื่องแปรรูปทุเรียนเตรียมส่งไปขายในจีนแล้ว นับเป็นโรงงานของนักลงทุนต่างชาติรายแรกในรอบหลายปี ที่ตัดสินใจลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น
คนงานของบริษัท ม่านกู่หวาง กำลังช่วยกันปอกทุเรียน ที่เพิ่งจะเปิดทำการรับซื้อจากเกษตรกรในหลายแหล่งของจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นทุเรียนแช่แข็งส่งออกไปยังประเทศจีน
บริษัท ม่านกู่หวาง ฟู๊ด จำกัด เป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่จากประเทศจีน ที่เข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปทุเรียนในพื้นที่หมู่ 7 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 700 ล้านบาท เป็นรายแรกของภาคใต้ รับซื้อทุเรียนจากชาวบ้าน นำมาบ่มจนสุกพร้อมรับประทาน ปอกเปลือกโดยใช้แรงงานในพื้นที่ ก่อนนำเนื้อทุเรียนผ่านกระบวนการแช่แข็ง ซึ่งใช้เวลาราว 5 ชม. ในอุณหภูมิ -40 องศาฯ จึงได้เป็นผลิตภัณฑ์ทุเรียนแช่แข็ง พร้อมส่งออกไปยังคู่ค้าในประเทศจีน
นายย่อเหิง แซ่เซียว กรรมการ ผจก.ใหญ่ บริษัท ม่านกู่หวาง ฟู๊ด จำกัด เปิดเผยว่า เขาเดินทางลงพื้นที่เมื่อปีก่อน เพื่อสำรวจทุเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งพบว่ามีคุณภาพดี ปริมาณเนื้อเยอะ สีสวย หวาน หอม และที่สำคัญมีปริมาณมากพอสำหรับการเปิดโรงงานแปรรูปเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศจีน ซึ่งชื่นชอบทุเรียนไทยอย่างมาก ประกอบกับในพื้นที่มีแรงงานจำนวนมาก และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนในพื้นที่ ทำให้ตัดสินใจก่อตั้งโรงงานขึ้นในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายรับซื้อทุเรียน 12,000 ตันในปีนี้ และเพิ่มขึ้นอีกในปีถัดไป โดยมีแผนจะขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20,000 ตัน และ จ้างแรงงานมากกว่า 1,200 คน ในเร็ววันนี้
การเกิดขึ้นของโรงงานแปรรูปทุเรียนขนาดใหญ่ด้วยงบลงทุนจากต่างชาติกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งยังมีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกเป็นกว่า 2,000 ล้านบาทในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สะท้อนศักยภาพในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งหากสถานการณ์ความไม่สงบดีขึ้นต่อเนื่อง ย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นได้ในไม่ช้า.-สำนักข่าวไทย