เชียงราย 30 ก.ค.-ความคืบหน้าคดีนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ตำรวจเตรียมเรียกสอบเจ้าของบัญชีที่ให้โอนเงินเรียกค่าไถ่ ซึ่งเป็นบัญชีคนไทยและธนาคารไทย ขณะที่ภรรยาและลูกนายสิงห์แก้ว ยืนยันไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร เคยมีปัญหาด้านธุรกิจบ้าง แต่ก็เรื่องเล็ก มูลค่าไม่ถึง 5 ล้านบาท
พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ แม้ว่านายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน จะโดนจับตัวในประเทศเพื่อนบ้าน แต่พบว่ากลุ่มคนร้ายได้แจ้งกับครอบครัวของนายสิงห์แก้ว ให้โอนเงินเรียกค่าไถ่เข้าบัญชีคนไทยและธนาคารของไทย ตำรวจจึงต้องสอบปากคำภรรยาและลูกของนายสิงห์แก้ว เพื่อหาความเชื่อมโยง และสาเหตุของการถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ โดยจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เรียกตัวเจ้าของบัญชีมาสอบปากคำ ว่ามีความเชื่อมโยงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มตัวนายสิงห์แก้ว เรียกค่าไถ่หรือไม่ และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินความเคลื่อนไหวของบัญชีดังกล่าวด้วย
ก่อนหน้านี้ นางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยา และนายประภาส วงศ์ใหญ่ บุตรขายของนายสิงห์แก้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร เคยมีปัญหาด้านธุรกิจบ้าง แต่ก็เรื่องเล็ก และมูลค่าไม่ถึง 5 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ปัญหาเรื่องการค้าน้ำตาลที่มีมูลค่ากว่า 13 ล้านบาทนั้น เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากทางนายสิงห์แก้ว ได้ธุรกิจนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว และการเดินทางไป สปป ลาว ครั้งนี้ก็ไปติดต่อธุรกิจเรื่องโรงฆ่าสัตว์ ที่เป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังจะลงทุน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการจับตัวนั้น ไม่ทราบ มีเพียงคนร้ายใช้วีแชทของนายสิงห์แก้ว มาเรียกเอาเงินเท่านั้น ไม่ได้บอกเหตุผลด้านอื่นเลย.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง