เชียงราย 30 ก.ค.-พบแล้วประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ถูกปืนจ่อหัว-ยิงขา เรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท เบื้องต้นมีรายงานว่า สปป ลาว ยังไม่ส่งตัวนายสิงห์แก้วให้ไทย เพราะต้องการสอบสวนอย่างละเอียดก่อน
นี่เป็นภาพแรกที่ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับมาจากแหล่งข่าว หลังได้รับคำยืนยันจาก พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ว่านายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ที่เดินทางออกจากไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก เพื่อข้ามไปเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ถูกกลุ่มคนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท พร้อมส่งคลิปข่มขู่แสดงภาพนายสิงห์แก้วถูกยิงต้นขาขวา มีรอยเลือดเปื้อนกางเกง และถูกปืนสั้นจ่อหัว ได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว แล้ว โดยพบตัวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นที่ตั้งบ่อนกาสิโน ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยตำรวจ สปป ลาว อยู่ระหว่างสอบปากคำ ขณะที่ไทยประสาน สปป ลาว ขอรับตัวนายสิงห์แก้วกลับมา เบื้องต้นมีรายงานว่า สปป ลาว ยังไม่ส่งตัวนายสิงห์แก้วให้ไทย เพราะต้องการสอบสวนนายสิงห์แก้วอย่างละเอียดก่อน
แต่อีกกระแสมีรายงานว่า สปป ลาว นัดส่งตัวนายสิงห์แก้วให้ไทยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. นำทีมไปรับด้วยตัวเอง แต่จุดที่รับยังไม่ชัดเจน เพราะจุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมไทย-ลาว ด้านจังหวัดเชียงราย มี 3 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก อำเภอเชียงแสน จุดผ่านแดนถาวรหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน และจุดผ่านแดนถาวรอำเภอเชียงของ ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง
ส่วนด้านคดีความ ตำรวจเชียงรายกำลังเร่งหาสาเหตุ โดยสอบปากคำภรรยาและลูกของนายสิงห์แก้ว เพื่อหาความเชื่อมโยงคดี เพราะครอบครัวยืนยันนายสิงห์แก้วไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร เคยมีปัญหาด้านธุรกิจบ้าง แต่เรื่องเล็ก และมูลค่าไม่ถึง 5 ล้านบาท ส่วนที่มีปัญหาเรื่องการค้าน้ำตาลที่มีมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะทำธุรกิจนี้มาเป็น 10 ปี ส่วนที่เดินทางไป สปป ลาว ครั้งนี้เพื่อไปติดต่อธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังจะลงทุน
นอกจากนี้แม้นายสิงห์แก้วถูกจับตัวที่ สปป ลาว แต่กลุ่มคนร้ายได้ให้โอนเงินค่าไถ่เข้าบัญชีชายชาวไทย และธนาคารของไทย ส่วนการติดตามตัวชายเจ้าของบัญชีอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐาน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชแทน ผบช.สตม. ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มีข่าวเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่นายสิงห์แก้วหายตัวไป ทางญาติได้แจ้งความที่โรงพักเชียงแสน ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็มีความเป็นห่วง หลังจากมีการรับแจ้งจาก สภ.เชียงแสน โดยท่านผู้การตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายก็ได้ประสานมาทางตน ในเรื่องของการเข้าออก เพราะเหตุเกิดที่ สปป ลาว ทางเราได้ประสานกับทางฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ตำรวจภูธรภาค 5 ตชด. และกองปราบฯ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบหมายให้ตนมาประสานงานในเรื่องข้อมูลที่สนับสนุนการทำงานของ สปป ลาว เมื่อวานได้มีการส่งทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และวันนี้ได้ส่งไปอีกชุดหนึ่ง จนได้พบตัวนายสิงห์แก้วแล้ว โดยเหตุเกิดที่ สปป ลาว เจ้าหน้าที่ของสาวต้องมีการสอบปากคำผู้เสียหายก่อน ทางลาวขอเวลาในการทำงานก่อน แต่ทางไทยมีการประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของชายแดน และเรามีคณะกรรมการในการที่จะประสาน ส่วนญาติก็ร้องขอตัวผู้เสียหายมาตรวจรักษา และทางลาวขอเวลาในการสอบปากคำ ส่วนจะเป็นการเรียกค่าไถ่หรือไม่นั้น ทราบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย 2 ครั้ง ส่วนรายละเอียดจำนวนเงินคงต้องตรวจสอบก่อน .-สำนักข่าวไทย