มท.1 ยืนยันไม่มีผลประโยชน์เรื่องจัดสรรที่ดิน

หอประชุมทีโอที 26 ก.ค.-ส.ส.อนาคตใหม่อภิปรายนโยบายด้านรัฐบาล เน้นปัญหาราคาผลผลิตเกษตรกรรม ที่ดิน ขณะที่รมว.มหาดไทยย้ำดูแลทั้งเรื่องที่ทำกิน สัญชาติ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายภาพรวมนโยบายรัฐบาลทั้งนโยบายหลัก 12 ด้านและนโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน โดยเริ่มที่การจัดสรรที่ทำกินอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง การจัดการปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ตลอดจนการจัดการปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินอย่างเท่าเทียมกัน  โดยนำเสนอให้ใช้ระบบสารสนเทศมาบริหารจัดการข้อมูลทางเศรษฐกิจและสินเชื่อของประชาชน เพื่อดูรายรับรายจ่าย และจะช่วยให้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้ด้วย  พร้อมเสนอแนะวิธีการจัดการและแก้ไขปัญหาสารเคมีการเกษตร และชี้ว่าการประกันรายได้เกษตรกรให้ระวังเรื่องการชดเชย โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่เช่าที่ดินคนอื่นประกอบอาชีพ ข้อกังวลให้ระวังเรื่องการผูกขาดของกลุ่มทุนใหญ่ในนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ตลอดจนแผนการพัฒนาเครื่องจักรการเกษตรที่ทันสมัย

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ชี้แจงถึงการจัดการปัญหาคนชายขอบที่ยังไม่ได้สัญชาติ ว่า ในส่วนที่เข้าประเทศมาก่อนปี 2538รัฐบาลให้สัญชาติแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ได้ให้คือพวกที่อยู่ในที่พักพิง  และคนกลุ่มแรกที่ตกสำรวจ  ส่วนการจัดสรรที่ดินทำกิน จัดสรรที่ดินสปก.และที่ดินว่างเปล่าสามารถเสียภาษีบำรุงท้องที่ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที  


“ขณะที่ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า เป็นเรื่องที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลทั้งประเทศ  โดยกำหนดอัตราส่วนเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่ป่าและพื้นที่ที่มีการปลดล็อคให้ไปใช้ประโยชน์เป็นที่ดินทำกินได้  แต่เมื่อให้ที่แล้วก็อย่าไปขาย  ยืนยันว่าผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวกับการจัดสรรที่ดิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า ไม่ได้ทำแบบอีอีซี ประชาชนจะมีส่วนกำหนดเกี่ยวกับการลงทุนในพื้นที่ ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ ประกาศภัยแล้งในปี 2560 บางจังหวัด แต่ปี 2561 ไม่ประกาศภัยแล้ง และทำความเข้าใจว่าความเป็นจริงว่าประเทศไทยอยู่ได้ด้วยน้ำฝนเท่านั้น  ซึ่งรัฐบาลพยายามทำแหล่งเก็บกักน้ำให้มากขึ้น โดยขอให้ไปดูสถิติเปรียบเทียบที่ผ่าน ๆ มา ส่วนน้ำประปาดำเนินการเกือบครบแล้ว เหลืออีกเพียงกี่สิบหมู่บ้าน


สำหรับข้อเสนอการแบ่งที่ดินคนรวยมาใช้ประโยชน์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า เป็นเรื่องใหญ่ ต้องพิจารณาว่าจะต้องแบ่งที่ดินหรือจะเก็บภาษีให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดเป็นนโยบายได้ ต้องหารือกับรัฐสภาทั้งหมด  ส่วนการพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร  ขณะนี้ติดเรื่องกฎหมายว่าจะเอาเงินที่ไหนไปลงทุน  และใครจะเป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นความคิดที่ดีในการลดต้นทุนรายจ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์เบรกแตก

ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ ก่อนบัสพุ่งชนท้ายรถพ่วง ตาย 7 เจ็บกว่า 50

รถบัสโดยสารพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงไฟลุกท่วม เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอีกกว่า 50 คน นายอำเภอนาดี เผยคาดรถทัวร์เบรกแตก แต่กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ขณะที่ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ และรถบัสแวะจอดปั๊มครั้งเดียว ก่อนขับยาว

ทรายสก๊อต

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลั่นทำงานร่วมกับ “ทราย สก๊อต” ต่อไม่ได้

อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยสำนักอุทยานแห่งชาติกำลังรวบรวมข้อร้องเรียนที่มีต่อ “ทราย สก๊อต” มาให้พิจารณาเพื่อให้ปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษา ชี้ไม่สามารถร่วมงานกันต่อไปได้ มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติองค์กร คอนเทนต์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียกระทบผู้อื่น

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ