รัฐสภา 5 ก.ย.-มติสภาฯ 313 : 142 เสียง เลื่อนวาระโหวตนายกฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก
ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ช่วงในการพิจารณาญัตติขอเลื่อนเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายยกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ที่ใช้เวลาอภิปรายแสดงความเห็นนานกว่า 1 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานในความเห็นของฝั่งที่คัดค้านไม่ให้เลื่อนวาระพิจารณา ได้ย้ำถึงประเด็นความไม่ชอบตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดหลักการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายค้าน ตามที่ข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน มีข้อความต่อการสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ บริหาร4 เดือน เพื่อทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภา ซึ่งตอนหนึ่งในการอภิปรายของ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การให้ความเห็นชอบนายกฯ ตามมาตรา 159 ระบุว่าต้องทำโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสส.ทั้งสภาฯ ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ว่าต้องการให้มีรัฐบาลเสียงข้างมาก กรณีที่มีข่าวซึ่งตนไม่สบายใจต่อระบบพิศดารในการเมือง ไม่มีเห็นพรรคการเมืองรวมตัวเลือกนายกฯและแสดงตัวไม่ร่วมรัฐบาล
“ผมถามว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมและประธานสภาฯ ตีความไม่ได้ แต่สงสัยระแวงได้ ผมขอให้ทุกพรรคที่ประสงค์จัดตั้งรัฐบาลให้เข้าร่วมรัฐบาลทุกพรรค หากไม่ร่วมแต่จะเป็นฝ่ายค้านนั้นขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน หากทอดเวลา 2-10 วัน พรรคที่อ้างว่าจะเห็นชอบลงโหวต แต่ไม่เป็นรัฐบาลขัดกับรัฐธรรมนูญชัดเจน ผมขอชี้ชวนให้บางพรรคการเมืองกลับใจมาร่วมรัฐบาล ความชอบการจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนายกฯ จะชอบด้วยกฎหมายไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ผมไม่อยากให้ใครพูดเอาหล่อ หรือตอแหล” นายประยุทธ์ อภิปราย
ทั้งนี้ ฝั่งสนับสนุนการเลื่อนญัตติ ยืนยันต่อการเลือกผู้นำประเทศเพื่อให้แก้ปัญหาประเทศโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงการปิดญัตตินายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนชอบบรรยากาศที่ส้มปกป้องน้ำเงิน เป็นสิ่งที่ดูดี เวลาอยู่ข้างพวกผม ผมจะรอดู มีคำกล่าวว่าพรรคใหญ่กว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่ประชาชนใหญ่กว่าพรรคขอให้เปิดโซเชียลมีเดียดูจะได้รู้ ที่เสนอให้เลื่อนยืนยันไม่ให้เลื่อน เพราะเห็นต่างวันนี้ หากใครจะเข้าใกล้ความเป็นนั่งร้านให้พรรคภูมิใจไทยเรียนเชิญ ยินดี
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในญัตติว่าจะเลื่อนวาระโหวตนายกฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรกหรือไม่ โดยผลการลงมติ ปรากฏว่า มติเสียงข้างมาก 313 เสียงเห็นชอบให้เลื่อนญัตติ ไม่เห็นด้วย 142 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง.-319.-สำนักข่าวไทย