รัฐสภา 27 ส.ค.-พรรคประชาชน ระบุ สภา ผลักดัน 3 ร่าง กม.เกี่ยวข้องรถไฟฟ้า ผ่านฉลุย เป็นความสำเร็จร่วมกัน ย้ำไม่เห็นด้วยรัฐบาลล้วงเงินจาก รฟม. ทำโครงการรถไฟฟ้าฯ 20 บาทตลอดสาย ถามจะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่
พรรคประชาชน นำโดย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. … ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ …) พ.ศ. … เพื่อจะสนับสนุนนโยบายของรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล
นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎร แม้ พ.ร.บ.จะผ่านแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังเลื่อนไปเรื่อยๆ หากจำกันได้ตอนที่รัฐบาลเข้ามาประกาศไว้ที่ 3 เดือน และเลื่อนมาเป็น 2 ปี คือวันที่ 1 ตุลาคม ล่าสุดก็จะเลื่อนอีก ทั้งที่กระบวนการพิจารณาสภาเป็นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับ พ.ร.บ.อื่น ไม่ได้มีการล้าช้าแต่อย่างใด แม้จะมีการถกเถียงกันบ้างในบางมาตรา ของ พ.ร.บ.ราง และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม แต่เราก็ร่วมผลักดันด้วย มีเพียง พ.ร.บ. ที่เรามีการโหวตสู้กันในมาตรา 4 ที่เกี่ยวกับการกู้มาแจก และมาตรา 8 ที่เป็นการล้วงกระเป๋า รฟม.ซึ่งเราไม่เห็นด้วยเป็นหลัก จึงทำให้เราไม่เห็นชอบ
“พรรคประชาชน จึงตั้งคำถามว่า นโยบายเรือธงของรัฐบาลที่เลื่อนไป จะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่ และจะมีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับหรือไม่ เพราะหากจะดำเนินการตามนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะประชาชนจะได้สามารถใช้บัตรใบเดียวแตะเข้าแตะออก และมีส่วนลดได้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่ นายศุภณัฐ กล่าวยืนยันว่า พรรคประชาชน เห็นด้วยกับการอุดหนุนค่าโดยสารให้กับพี่น้องประชาชน เห็นด้วยกับการทำตั๋วร่วม เพราะถ้าสังเกต จะพบว่าใน พ.ร.บ.ตั๋วร่วมนั้น พรรคประชาชนก็มีการเสนอ และในหลายๆ ประเด็นใน พ.ร.บ.ของ ครม. ที่ยังมีความไม่ครบถ้วน ก็ต้องอาศัยร่างของพรรคประชาชนเข้าไปช่วยให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะการที่จะทำให้ครอบคลุมในส่วนของรถเมล์ รวมถึงการทำค่าโดยสารร่วม
แต่สิ่งเดียวที่ไม่เห็นด้วย คือการเสนอใช้เงินของทาง รฟม.ขึ้นมา ซึ่งเป็นปัญหา ที่มีการพิจารณาในคณะกรรมาธิการแล้ว ย้ำว่า สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่จากพรรคประชาชน เพราะกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคประชาชน ไม่มีการเล่นเกม เราร่วมประชุมทุกครั้ง ซึ่งได้พยายามผลักดัน ให้ข้อเสนอแนะ และแบกองค์ประชุมแล้ว แต่สิ่งที่มีความล่าช้านั้น เกิดจากการวางนโยบายของรัฐบาลที่ผิดพลาดเอง
นายศุภณัฐ ยังชี้ให้เห็นถึงไทม์ไลน์ ว่าในคณะกรรมาธิการตั๋วร่วม มีการพิจารณาเสร็จสิ้นตั้งแต่ช่วงเมษายนแล้ว แต่รัฐบาลเพิ่งประชุม พ.ร.บ.รฟม. ในเดือนพฤษภาคม แสดงว่าทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้วางแผนเลยว่า จะใช้เงินจากช่องทางไหน และทำให้เกิดความล่าช้าในการผลักดันนโยบายของรัฐบาลเอง สะดุดขาตัวเองไม่ใช่ใครอื่น และรัฐบาลก็ต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งตั๋วเหมา ตั๋วรายเดือน ที่มีบางผู้ประกอบการได้ยกเลิกไปแล้ว ก็ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งที่การวางไทม์ไลน์ด้านนิติบัญญัติ รัฐบาลควรคิดให้ได้เอง ว่าควรจะทำเสร็จเวลาไหน ต้องควรคำนวณได้ เพราะเป็นคนเจ้าของเสียงข้างมาก
นายศุภณัฐ หวังว่า หลังจากนี้รัฐบาลจะพยายามยึดกลไกตั๋วร่วม ใช้บัตรโดยสารใบเดียว ไม่ใช่แบบในปัจจุบัน ซึ่งใช้บัตร 2 ใบอย่างที่เป็นอยู่ ขณะเดียวกัน จะสามารถดึงรถเมล์ รถโดยสาร รวมถึงเรือ เข้ามาสู่ระบบเดียวกันได้หรือไม่ .-315.-สำนักข่าวไทย