ความคาดหวังของประชาชนต่อ รัฐมนตรี 20 กระทรวง

สวนดุสิตโพล 21 ก.ค.- สวนดุสิตโพลสำรวจความคาดหวังของประชาชนต่อรัฐมนตรี 20 กระทรวง กระทรวงคมนาคม ประชาชนร้อยละ 51.09 อยากมีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อทั่วประเทศ พัฒนาระบบการคมนาคมให้ดีขึ้น ส่วนกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 44.30 ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แก้ปัญหาอาชญากรรม ทำให้บ้านเมืองสงบ 


ความเคลื่อนไหวของ ครม.ชุดใหม่ในช่วงนี้เห็นได้ว่าเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ อีกทั้งประชาชนต่างมีความหวังว่า รมต.ใหม่ที่เข้ามาจะบริหารบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากรมต.ทุกตำแหน่งมีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างเต็มที่ ก็จะส่งผลให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีมีสุข เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการเมือง  “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อรัฐมนตรี 20 กระทรวง จำนวนทั้งสิ้น 1,586 คน ระหว่างวันที่ 16-20 กรกฎาคม 2562 สรุปผลได้ ดังนี้  

1. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ สำนักนายกรัฐมนตรี คือ


อันดับ 1 พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ดำเนินการตามนโยบายของรัฐ 63.93%

อันดับ 2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดกฎหมาย กฎระเบียบอย่างเคร่งครัด 35.03%

อันดับ 3 บริหารจัดการงบประมาณให้คุ้มค่า มีระบบติดตามตรวจสอบได้ 20.76%


2. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงกลาโหม คือ

อันดับ 1 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทำงานเต็มความสามารถ ทำเพื่อประชาชน 45.43%

อันดับ 2 ดูแลความมั่นคง ช่วยเหลือประชาชน พัฒนาประเทศ 31.85%

อันดับ 3 รักษาความสงบ ความสามัคคี สร้างความปรองดองให้กับประเทศ 24.72%

3. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงการคลัง คือ

อันดับ 1 ซื่อสัตย์ สุจริต สามารถตรวจสอบการทำงานและงบประมาณได้ 38.98%

อันดับ 2 มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ป้องกันไม่ให้เกิดเงินเฟ้อ ดูแลค่าครองชีพของประชาชน 36.61%

อันดับ 3 ควบคุมการใช้จ่ายไม่ให้รั่วไหล ควบคุมค่าใช้จ่ายของกระทรวงต่าง ๆ 26.77%

4. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงการต่างประเทศ คือ

อันดับ 1 สร้างความเชื่อมั่นในเวทีระดับนานาชาติ สร้างสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศให้ดีขึ้น 65.40%

อันดับ 2 ส่งเสริมด้านการส่งออก สร้างความร่วมมือกับต่างชาติ ลดภาษีการนำเข้า23.08%

อันดับ 3 สนับสนุนให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทย 15.38%

5. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงมหาดไทย คือ

อันดับ 1 ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แก้ปัญหาอาชญากรรม ทำให้บ้านเมืองสงบ 44.30%

อันดับ 2 ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เร่งสะสางคดีที่คั่งค้าง ทำงานอย่างต่อเนื่อง 32.64%

อันดับ 3 ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด 25.39%

6. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ

อันดับ 1 ส่งเสริมราคาผลผลิตทางการเกษตรให้ดีขึ้น เช่น ยางพารา ข้าว ปาล์ม 65.86%

อันดับ 2 ช่วยให้เกษตรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองได้  21.34%

อันดับ 3 พัฒนาระบบการเกษตรให้ทันสมัย ควบคุมผลผลิตทางการเกษตรให้ได้มาตรฐาน  13.91%

7. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงศึกษาธิการ คือ

อันดับ 1 สร้างโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา 43.08%

อันดับ 2 พัฒนาการศึกษาไทยให้ดีมีคุณภาพ ทัดเทียมกับต่างประเทศ นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ 33.94%

อันดับ 3 ปฏิรูปการศึกษา พัฒนาการศึกษาให้สอดคล้องกับเด็กไทย เลิกท่องจำ 26.11%

8. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คือ

อันดับ 1 พัฒนาการศึกษาอย่างเป็นระบบ พัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย 60.29%

อันดับ 2 เปิดโอกาสทางการศึกษา สนับสนุนให้มีการเรียนฟรีถึงระดับอุดมศึกษา 30.88%

อันดับ 3 ป้องกันดูแลด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา เข้มงวดการรับน้องที่ใช้ความรุนแรง 22.06%

9. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงแรงงาน คือ

อันดับ 1 สร้างความเป็นธรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 45.14%

อันดับ 2 เน้นส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ แก้ปัญหาการว่างงาน  30.00%

อันดับ 3 แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย 26.49%

10. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงวัฒนธรรม คือ

อันดับ 1 ส่งเสริมและรักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีไทย 66.67%

อันดับ 2 ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยอย่างจริงจัง 33.36%

อันดับ 3 อนุรักษ์และสร้างค่านิยมที่เหมาะสมกับสังคมไทย 25.00%

11. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คือ

อันดับ 1 ทำให้คนในสังคมมีความเท่าเทียมกัน พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ 51.64%

อันดับ 2 ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมอาชีพให้ผู้ด้อยโอกาส แก้ปัญหาคนไร้บ้าน 33.61%

อันดับ 3 แก้ปัญหาความรุนแรงในสังคม ปัญหาภายในครอบครัว สตรี เด็ก และคนชรา 17.21%

12. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คือ

อันดับ 1 พัฒนาด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย ทำให้เกิดความเชื่อมั่น 50.38%

อันดับ 2 พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้สวยงาม สะอาด การเดินทางสะดวก  31.30%

อันดับ 3 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง สนับสนุนสินค้าชุมชน 25.19%

13. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงคมนาคม คือ

อันดับ 1 มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อทั่วประเทศ พัฒนาระบบการคมนาคมให้ดีขึ้น 51.09%

อันดับ 2 แก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ จัดระเบียบการจราจร 31.52%

อันดับ 3 ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ พัฒนาคุณภาพและการบริการ ปรับลดค่าโดยสาร 23.91%

14. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คือ

อันดับ 1 ดูแลควบคุมสื่อที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน 53.85%

อันดับ 2 มีกฎหมายคุ้มครองเรื่องการลงทุน การค้าขายออนไลน์ที่เป็นธรรม 32.31%

อันดับ 3 ส่งเสริมปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาเด็กไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยี 23.08%

15. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ

อันดับ 1 ฟื้นฟูป่าไม้ที่เสื่อมโทรม ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ให้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่ป่าในเมืองและทั่วประเทศ 53.25%

อันดับ 2 เพิ่มบทลงโทษกับผู้ที่กระทำความผิด ล่าสัตว์ บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า  38.96%

อันดับ 3 บริหารทรัพยากรธรรมชาติให้สมดุลกับจำนวนประชากร 23.38%

16. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงพลังงาน คือ

อันดับ 1 ควบคุมราคาพลังงาน เช่น ลดราคาน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า 59.28%

อันดับ 2 ส่งเสริมพลังงานทดแทน ผลักดันพลังงานสะอาด 22.75%

อันดับ 3 ซื่อสัตย์ โปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ 21.56%

17. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงพาณิชย์ คือ

อันดับ 1 พัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าทางการเกษตร 66.35%

อันดับ 2 ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีผลงานเป็นรูปธรรม แก้ปัญหารวดเร็ว 22.54%

อันดับ 3 ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย ลดการจัดเก็บภาษีครัวเรือนให้ต่ำลง 15.34%

18. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงยุติธรรม คือ

อันดับ 1 มีความยุติธรรมในการตัดสินคดี โปร่งใส ไม่สองมาตรฐาน 64.39%

อันดับ 2 ซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รับสินบน 25.90%

อันดับ 3 บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ให้มีบทลงโทษตามกฎหมาย 12.95%

19. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงสาธารณสุข คือ

อันดับ 1 มีแพทย์ พยาบาลที่เพียงพอ อุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย 48.23%

อันดับ 2 พัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้มีคุณภาพ มาตรฐาน 32.43%

อันดับ 3 เพิ่มงบประมาณให้กับกระทรวง เพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขให้ดีขึ้น 22.45%

20. เรื่องที่ประชาชนคาดหวังต่อ กระทรวงอุตสาหกรรม คือ 

อันดับ 1 พัฒนาระบบอุตสาหกรรมไทยให้ได้มาตรฐาน ผลักดันอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้ 48.50%

อันดับ 2 พัฒนาด้านการส่งออก ส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตร 33.33%

อันดับ 3 ควบคุมปริมาณมลพิษ ตรวจสอบมลภาวะอากาศ ขยะ ลดการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ 21.19%    .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้า

4 ส.ค. – สมาคมดาราศาสตร์ไทยแจงปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้าหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. (วันที่ 4 ส.ค.) สมาคมดาราศาสตร์ไทยได้แจ้งว่า เกิดลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากตรวจสอบน่าจะเป็น ดาวตกชนิดลูกไฟ (meteoroid) โดยลักษณะที่ปรากฏเป็นแสงสีเขียว อาจบ่งบอกถึงองค์ประกอบของธาตุนิกเกิล โดยทั่วไปแล้ว ดาวตก (Meteor) เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและเสียดสีกับอากาศที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร ทำให้เกิดแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่เท่าใด ปริมาณความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ดาวตกในครั้งนี้มีขนาดใหญ่และมีความสว่างมากเป็นพิเศษ ความสว่างของมันใกล้เคียงกับดาวศุกร์ ทำให้ถูกจัดเป็นดาวตกชนิด #ลูกไฟ (Fireball) อย่างชัดเจน ส่วนการปรากฏของแสงสีเขียว สามารถตีความได้ว่าดาวตกนี้มีส่วนประกอบของธาตุโลหะอย่างนิกเกิล.-สำนักข่าวไทย