กาฬสินธุ์ 19 ก.ค. – ตำรวจกาฬสินธุ์รวบยกแก๊ง น.ส.จิณณะ นิชคุณมั่น หรือ “หมอเดียร์” อายุ 31 ปี อดีตเภสัชกร เจ้าของคลินิกโอบีแคร์ และแฟนหนุ่ม พร้อมน้องชาย ลูกเจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม เอี่ยวผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม เดินหน้าแจ้ง 5 ข้อหาหนัก พิษยาลดความอ้วนสูตรมรณะผสมไซบูทรามีน
ตำรวจเข้าจับกุม น.ส.จิณณะ นิชคุณมั่น หรือ “หมอเดียร์” อายุ 31 ปี อดีตเภสัชกร เจ้าของคลินิกโอบีแคร์ อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 7 ต.สงเปือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ลูกสาวของนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี เจ้าของบริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ 154/2562 รวม 5 ข้อหา หลังหลบหนีออกจากพื้นที่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ไปพักอยู่ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่บ้านบึงกาฬวิลล่า ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ และคาดว่ากำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าจับกุมนายกฤชกร หรือ ต่อ บุตรวิเศษ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ จ.152/2562 ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางวสภัสสร เจ้าของโรงงาน ที่หน้าโกดัง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับเข้าจับกุมนายธนกร เลิศสงคราม อายุ 26 ปี ลูกชายนางวสภัสสร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.153/2562 ที่หน้าร้านโรมัน เรสเตอรอง ถนนบ้านกอก หมู่ 19 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
1. ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ร่วมกันก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ร่วมกันผลิต มีไว้ในความครอบครองเพื่อขาย และขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
นางวสภัสสร ให้การรับสารภาพว่า โรงงานดังกล่าวมี น.ส.จิณณะ หรือ เดียร์ นิชคุณมั่น ลูกสาว, นายธนากร หรือ ดาฟ เลิศสงคราม ลูกชาย ร่วมเป็นหุ้นส่วน และมีนายกฤชกร หรือ ต่อ บุตรวิเศษ สามีของตน ร่วมดำเนินการ ส่วนไซบูทรามีนของกลาง ติดต่อสั่งซื้อจากนายธวัชชัย ผาสุขศรี
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของนางวสภัสสรไปยังบัญชีนายธนากร จำนวน 117 ครั้ง เป็นเงิน 7,165,000 บาท มีการโอนเงินจากบัญชีนายธนากรไปยังบัญชีของนางวสภัสสร จำนวน 30 ครั้ง เป็นเงิน 1,170,000 บาท โอนเงินจากบัญชีของ น.ส.จิณณะ ไปยังบัญชีของนางวสภัสสร จำนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 6,196,117 บาท โอนเงินจากบัญชีนางวสภัสสรไปยังบัญชีนายธวัชชัย จำนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 3,142,395 บาท โอนเงินจากบัญชีนายธวัชชัยไปยังบัญชีของนายอภิชาติ สืบศรี จำนวน 8 ครั้ง เป็นเงิน 938,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาล และจับกุมตัวได้ดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย