นนทบุรี 16 ก.ค. – อาเซียนตั้งวงถกข้อกังวลผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม เดินหน้าร่างยุทธศาสตร์รับมือ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียน และองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ (USAID-IGNITE) จัดประชุมคณะกรรมการรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมอาเซียนรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรือ 4IR โดยการประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนของคณะทำงานในสาขาต่าง ๆ ใน 3 เสาประชาคมอาเซียน ประกอบด้วย เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และการเมืองและความมั่นคง ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เนื่องจากประเด็น 4IR เป็นเรื่องใหม่สำหรับอาเซียน จึงยังไม่มีการหารือในประเด็นที่อาจมีความคาบเกี่ยวระหว่างสาขาและระหว่างเสา ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องมอบฝ่ายเลขาธิการอาเซียนไปจัดทำเอกสารเพื่อนำเสนอร่างยุทธศาสตร์อาเซียนในการรับมือกับ 4IR เสนอระดับนโยบายของอาเซียนทั้ง 3 เสา พิจารณาต่อไป
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้สำนักเลขาธิการอาเซียนได้แสดงความกังวลว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะส่งผลให้กว่าร้อยละ 50 ของแรงงานในประเทศสมาชิกอาเซียนถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติ ในทางกลับกันเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้นอาจทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องการแรงงานใหม่ ๆ เพื่อทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ประชุมจึงได้ระดมความเห็นถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และความพร้อมของอาเซียน 5 ประเด็น ได้แก่ 1.นวัตกรรมและเทคโนโลยี 2.ทรัพยากรมนุษย์ 3. กรอบกฎระเบียบ 4.ความเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐาน และ 5.การเจริญเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืน เพื่อหารือถึงความท้าทายและเสนอแนวทางรับมือร่วมกัน โดยเห็นพ้องว่าอาเซียนจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการประสานการทำงานระหว่างสาขาและระหว่างเสา เพื่อให้การทำงานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและเอื้อประโยชน์ต่อกัน การแบ่งปันข้อมูลการดำเนินงานของแต่ละสาขาให้ได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงและพร้อมเพรียง เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการกำหนดยุทธศาสตร์ของอาเซียนเพื่อรับมือกับ 4IR นอกจากนี้ สำหรับคณะทำงานรายสาขาของอาเซียน ที่ประชุมเห็นว่าอาจต้องเตรียมความพร้อมด้าน 4IR เช่น วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ผู้ประกอบการขนาดเล็กและรายย่อย ทรัพย์สินทางปัญญา การคุ้มครองผู้บริโภค อาหาร เกษตรและป่าไม้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 7 ของ GDP ของอาเซียน (2.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) คาดว่าปี 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลจะช่วยให้มูลค่า GDP ของอาเซียนเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย