ตร.ร่วมกรมประมงเปิดปฏิบัติการพิเศษจับกุมประมงผิดกฎหมายสอดรับจุดยืนอาเซียน

กรุงเทพฯ 7 ก.ค.- ตร. ร่วมกรมประมงเปิดปฏิบัติการพิเศษจับกุมประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค สอดรับจุดยืนอาเซียน 


จากผลการประชุมเมื่อเดือนเมษายน 62 ที่ผ่านมา กรมประมงได้จัดการประชุม The ASEAN Meeting on Combating IUU Fishing in Partnership with the EU มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน องค์กรระหว่างประเทศด้านการประมง และผู้แทนจากสหภาพยุโรป (อียู) 70 ราย หารือพร้อมทั้งเร่งผลักดันการจัดตั้ง ASEAN IUU Fishing Task Force เพื่อแสดงถึงจุดยืนร่วมกันที่จะมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค  


โดยมีข้อเสนอการประชุม ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่ การจัดทำนโยบายประมงอาเซียน อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษา และการจัดตั้ง The ASEAN IUU Task Force เพื่อสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและสร้างเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงข้อมูลการติดต่อสื่อสารรวดเร็วมีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านการประมง IUU ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างรัฐเจ้าของธง รัฐชายฝั่ง รัฐเจ้าของท่า และองค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค โดยข้อมูลที่จะแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นทางด้านกฎหมาย เช่น การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและระหว่างประเทศ กฎหมายของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง  มาตรการรัฐเจ้าของท่า และมาตรการบริหารจัดการ เป็นต้น ทั้งนี้ คณะทำงาน Task Force จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งผลักดันประเด็นสำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและวางแผนการดำเนินงานที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต 

นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาเครื่องมือ ระบบ เทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการของ Task Force จะสามารถพัฒนาสมรรถนะและศักยภาพในการติดตามควบคุมและเฝ้าระวังการกระทำผิด IUU ให้แก่หน่วยงานประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อพัฒนาการต่อต้านการประมง IUU ในประเทศและในภูมิภาค


ในประเด็นแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาคทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมประมงได้ปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค.62  พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค./ประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)  ได้ลงพื้นที่กำชับติดตามการดำเนินคดีการทำประมงผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดระนองจากการปฏิบัติการร่วมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกรมประมงในการจับกุมเรือประมงที่กระทำความผิดจำนวน 66 ลำ พร้อมเปิดเผยว่า ตามนโนบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ติดตามกำกับดูแลเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย และโดยการสั่งการของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เข้มงวดกวดขันการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค ตนในฐานะเป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ได้ดำเนินการร่วมกับกรมประมงในการตรวจสอบติดตามและบังคับใช้กฎหมายการทำประมงผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง  โดยระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.62 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด SAT (Spacial Arrest Team) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมประมง ประกอบด้วย เรือตรวจกรมประมงและเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์น้ำระนอง หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะสุรินทร์ พังงา  ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่ทำการประมงผิดกฎหมายที่จังหวัดระนองได้สามารถแบ่งกลุ่มประเภทการกระทำความผิดได้ เป็น 2 กลุ่มดังนี้

เรือกลุ่มที่ 1 จำนวน 7 ลำ จับกุมในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย.62 ในพื้นที่จ.ระนอง ความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจ้าเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 165 และฐานร่วมกันน้าเข้าสัตว์น้าหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการประมงฯ มาตรา 92  มาตรา 95 และมาตรา 96 ประกอบมาตรา 158  ลงโทษปรับห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า สถานที่เกิดเหตุบริเวณแพ พี เจ ที่อยู่ 92/20 หมู่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง  จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2562 เวลาประมาณ 19.10 น.และควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เรือกลุ่มที่ 2 จำนวน 59 ลำ จับกุมในระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.62 ซึ่งกักและล็อคไว้ ณ ท่าเทียบเรือต่างๆ จว.ระนอง (ตาม พรก.การประมงฯ มาตรา 95 และ มาตรา 105(2) คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2560 ข้อ 22) ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นผู้ควบคุมเรือลักลอบนำเรือประมงต่างประเทศเข้ามาในน่านน้ำไทยและเข้าเทียบท่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง” (เป็นความผิดตาม พรบ.การเดินเรือฯ มาตรา 17 และมีโทษตาม ม.24 ประกอบประกาศกรมเจ้าท่า ฉบับที่ 51 /2561 ลง 19 มี.ค. 2561 ข้อ 9 และข้อ 11 ประกอบประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การแจ้งข้อมูลล่วงหน้าและกำหนดท่าเทียบเรือของเรือประมงที่มิใช่เรือประมงไทยที่ประสงค์จะเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 ลง 9 พ.ย. 2560) และความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจ้าเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 165 และความผิดฐานร่วมกันน้าเข้าสัตว์น้าหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการประมงฯ มาตรา 92  มาตรา 95 และมาตรา 96 ประกอบมาตรา 158  ลงโทษปรับห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า และแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พรบ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 11 ประกอบมาตรา 62 ส่วนความผิดในข้อหาอื่นอยู่ในระหว่างสอบสวนดำเนินคดีต่อไป 

จากการปฏิบัติภารกิจกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมายในครั้งนี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค./ประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ยังกล่าวด้วยว่า  “ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมายแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและศักยภาพของประเทศไทยระหว่างดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน รวมทั้งแสดงจุดยืนของภูมิภาคอาเซียนที่จะปลอดการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Free) ให้หมดไปจากภูมิภาค”

โดยที่ผ่านมาจากการเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมประมงในการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมายทำให้สถิติการเกิดคดีการทำประมงผิดกฎหมายมีการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2559 มี 3,270 คดี ปี 2560 มี 958 คดี ปี 61 มี 574 คดี ปี 62 จนถึงปัจจุบัน 333 คดี ล่าสุด จากการทำประมงผิดกฎหมาย เมื่อเดือน พ.ค.62 ที่ ผ่านมาศาลสั่งปรับเรือโชคชัยนาวี 35 พร้อมยึดเรือสินค้าบนเรือ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]