กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- ตำรวจร่วมกรมประมง จับคนไทยและพม่าร่วมกันนำ หมึกและปลาเบญจพรรณ ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. เปิดเผยว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมประมง ประกอบด้วย เรือตรวจ 604 กปม.และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์น้ำระนอง หน่วยป้องกันและปราบประมงทะเลเกาะสุรินทร์ พังงา ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 3 คน เป็นคนไทย 1 คน และชาวเมียนมา 2 คน พร้อมด้วยของกลาง 1.เรือหางยาวขนถ่ายสัตว์น้ำ สัญชาติเมียนมา ขนาด 9.0 GT จำนวน 1 ลำ 2.ลังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ภายในบรรจุ หมึกสายและปลาเบญจพรรณ จำนวน 23 ลัง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันนำสัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ประมง ฯ มาตรา 92 วรรคหนึ่ง โทษตามมาตรา 158 ลงโทษปรับห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า โดยจับกุมที่บริเวณแพ พี เจ ที่อยู่ 92/20 หมู่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ค่ำวานนี้ (26 มิ.ย.) และควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังจับกุมเรือประมงผิดกฎหมายเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย. อีก 6 ลำ ในพื้นที่จ.ระนอง ความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจ้าเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.ก.การประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 165 และฐานร่วมกันน้าเข้าสัตว์น้าหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การประมงฯ มาตรา 92 , มาตรา 95 และมาตรา 96 ประกอบมาตรา 158
ที่ผ่านมา จากการเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมประมงในการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมายทำให้สถิติการเกิดคดีการทำประมงผิดกฎหมายมีการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2559 มี 3,270 คดี ปี 2560 มี 958 คดี ปี 61 มี 574 คดี ปี 62 จนถึงปัจจุบัน 191 คดี ล่าสุด จากการทำประมงผิดกฎหมาย เมื่อเดือน พ.ค.62 ที่ ผ่านมาศาลสั่งปรับเรือโชคชัยนาวี พร้อมยึดเรือสินค้าบนเรือ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย