กรุงเทพฯ 5 ก.ค. – ก.พลังงานถกหลังผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งปรับแผนพีดีพี 2018 ให้ยึดรัฐธรรมนูญภาครัฐมีสัดส่วนผลิตไฟฟ้าร้อยละ 51 ยืนยันทำตามกรอบรัฐธรรมนูญโดยตลอด ด้าน BANPU แนะ รมว.พลังงานคนใหม่แก้กฎหมาย “ขนานไฟฟ้า” ฝ่ายจำหน่าย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนใช้เองเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (5 ก.ค. ) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณากรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยให้รัฐต้องเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ามากกว่าร้อยละ 51 และส่งเรื่องให้กระทรวงพลังงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ให้ทบทวนแผนผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 หรือพีดีพี 2018 ให้จบภายใน 120 วัน โดยให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยในเวลา 10 ปี นับจากปีนี้เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 56 ที่ระบุโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานภาครัฐต้องถือหุ้นร้อยละ 51 ขณะที่มีรัฐธรรมนูญมาตรา 75 วรรคสอง ระบุว่า “รัฐต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชน เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ การรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมการจัดให้มีสาธารณูปโภค หรือการจัดทำบริการสาธารณะ” โดยทางกระทรวงฯ จะทำหนังสือชี้แจงไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินภายใน 120 วัน โดยยืนยันว่าการดำเนินการทำแผนพีดีพี 2018 ที่ผ่านมาได้ทำตามกรอบรัฐธรรมนูญโดยตลอด คำนึงถึงความมั่นคงด้านพลังงาน ต้นทุนราคาไม่กระทบภาคประชาชน ส่งเสริมการลงทุนและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำให้การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลง
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า ต้องรอรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่มาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งต้องพิจารณาทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา 56 และมาตรา 75 ควบคู่กันไป สิ่งสำคัญ คือ จะทำอย่างไรให้ต้นทุนภาคประชาชนต่ำที่สุด ส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (Distributed Generation) เพื่อให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าเองใช้เอง เช่น จากโซลาร์รูฟท็อป ทำให้ประเทศพึ่งพาพลังงานทดแทนมากขึ้น เพราะหากมุ่งให้รัฐเป็นเจ้าของส่วนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้เป็นการผลิตไฟฟ้าแบบรวมศูนย์ (Centralized Generation) ในรูปแบบเดิม และสิ่งที่ส่งเสริมสำคัญ คือ ต้องมีการแก้กฎระเบียบ หรือกฎหมายให้การผลิตไฟฟ้าพึ่งพาตนเองเกิดได้สะดวก รวดเร็วมั่นคง โดยเฉพาะการเชื่อมต่อของการขนานไฟฟ้าเข้าระบบของฝ่ายจำหน่ายทั้งการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ปัจจุบันการอนุญาตล่าช้ามาก จากที่นโยบายจะพิจารณา ภายใน 30-45 วัน ก็ส่งผลให้โซลาร์รูฟท็อปพัฒนาได้อย่างล่าช้า
นายมนูญ ศิริวรรณ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน 10 กรกฎาคมนี้จะมีการรายงานให้ทราบถึงกรณีดังกล่าวแต่จะไม่มีมติใด ๆ ในการดำเนินงาน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจ ประกอบกับคณะกรรมการฯ ไม่ได้มีนโยบายกำหนดว่ารัฐจะต้องถือหุ้นในกิจการไฟฟ้าสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นเป็นเพียงข้อเสนอแนะ ซึ่งหากกระทรวงพลังงานเห็นว่าควรปรับปรุงแผนพีดีพี 2018 ก็สามารถเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เปลี่ยนแปลงนโยบายและสั่งการมายังคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาปรับเปลี่ยนได้
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะเร่งพิจารณาข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวตามขั้นตอน พร้อมทั้งยืนยันว่าการดำเนินงานตามแผนพีดีพีที่ผ่านมาที่ให้เอกชนมีบทบาทร่วมในการผลิตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงประกาศในแผนพีดีพี 2010 เมื่อปี 2553 แผน พีดีพี 2015 ปี 2558 และล่าสุดพีดีพี 2018 ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของ กพช.เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 นั้น เป็นการดำเนินการตามกรอบของรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย