ศูนย์ราชการฯ 24 เม.ย.- ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินพอใจผลการดำเนินงาน 25 ปีที่ผ่านมา ยังได้รับความพอใจจากประชาชน พร้อมปรับเปลี่ยนการทำงานจากนี้ให้ทันโลกดิจิทัลมากขึ้นให้สอดครับเรื่องร้องเรียนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงผลการดำเนินงานในโอกาสครบรอบ 25 ปี ว่า วัตถุประสงค์หลักจะมีอยู่ 2 ประการ ประการแรก คือการทำความเข้าใจเรื่องของความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะที่เป็นองค์กรหลักที่เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
โดยสาเหตุหลักก็คือ การแก้ไขความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานของรัฐ แบ่งเป็น 3 ลักษณะก็คือ ความเดือดร้อนจากกฎหมาย หรือคำสั่ง และข้อบังคับ ซึ่งเป็นขั้นตอนการปฏิบัติงาน และให้บริการของหน่วยงานที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน
ประการที่ 2 ก็คือการเดือดร้อนจากการกระทำและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในลักษณะที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือไม่ทำตามหน้าที่ตามกฎหมาย
ประการที่ 3 คือ ความเดือดร้อนจากการเสียสิทธิ์ของประชาชน ซึ่งได้รับการบริการจากหน่วยงานภาครัฐ ถ้าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากหน่วยงานของรัฐใน 3 ลักษณะ ก็สามารถยื่นร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดินได้ ทำได้หลายช่องทาง ทั้งทางโทรศัพท์สายด่วน หรือหากไม่แน่ใจว่าประเด็นที่จะยื่น อยู่ในขอบเขตของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำอย่างครบถ้วนว่าจะสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีช่องทางการรับเลือกร้องเรียนจากทางอินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์เพิ่มเติม รวมถึงแอปพลิเคชั่นของผู้ตรวจการแผ่นดิน
ส่วนวัตถุประสงค์อีกประการ ก็คือ การรับทราบจากแนวคิดของผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ที่เป็นประโยชน์และให้การทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินมีประสิทธิภาพเพิ่มเติม
สำหรับผลการดำเนินงานตลอด 25 ปีที่ผ่านมาได้ร่วมการแก้ไขความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมของประชาชน ซึ่งมีการรับเรื่องเล่าเรียนจากประชาชนจำนวนทั้งสิ้นกว่า 63,000 เรื่อง มีการดำเนินการแล้วเสร็จจำนวนกว่า 61,000 เรื่อง และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อน 2,600 เรื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นรูปที่เพิ่งรับไว้พิจารณา หรือเป็นเรื่องร้องเรียนที่มีความซับซ้อน
ส่วนจะพอใจหรือไม่นั้น คงไม่ประเมิณตัวเอง แต่จากการประเมินการทำงานที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับการประเมินจากสถาบันพระปกเกล้าฯ ที่ประเมินองค์กรอิสระ พบว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับการประเมินในระดับที่ดีเยี่ยม ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน ในขณะที่ความพึงพอใจจากการรับเรื่องร้องเรียนของประชาชนและลงมือแก้ไขปัญหา ก็พบว่าประชาชนให้การประเมินผู้ตรวจการแผ่นดินในระดับที่พึงพอใจมาก ซึ่งการประเมินนี้ก็ถือเป็นกำลังใจให้กับผู้ตรวจการแผ่นดินทำหน้าที่ต่อไปเพื่อประชาชน
สำหรับสิ่งที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ส่วนตัวเห็นว่า เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการก็คือ ความรวดเร็วในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการสอบสวนเรื่องราวต่างๆแม้จะมีความพร้อม แต่ก็พบว่าในแต่ละปีมีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมีจำนวนเท่าเดิม สิ่งสำคัญก็คือการนำ เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินการรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ที่จะสามารถช่วยได้ .314.-สำนักข่าวไทย
