ดีเอสไอตรวจค้นเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ย่านบางเขน

ดีเอสไอ 3 ก.ค.-ดีเอสไอ  ร่วมตำรวจ ทหาร ตรวจค้นเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ย่านบางเขน พบเอกสารฟ้องร้องหมายบังคับคดี สมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มของลูกหนี้จำนวนมาก ทุนทรัพย์ฟ้องร้องกว่า 30 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องกว่า 800 ราย


พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม บูรณาการร่วมกับกำลังพลศูนย์ป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน  สน.โคกคาม และกำลังพลกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเขตบางกะปิ เขตลาดพร้าว กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ย่านบางเขน กรุงเทพ ตามหมายค้นรวม 3 จุด โดยพบหลักฐานที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ และพบเจ้าหนี้พักอาศัยอยู่และนำตรวจค้น ประกอบด้วย สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ การชำระเงิน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มของลูกหนี้ สำเนาคำฟ้องที่ปรากฎชื่อเจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้อง สำเนาหมายบังคับคดี เงินสดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่รวบรวมเอกสารได้ 11 กล่อง และ 13 ถุงดำ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้ลงบันทึกประจำวันและส่งมอบศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม(ศนธ.) ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมจากลูกหนี้ซึ่งกู้ยืมเงินนอกระบบจากเจ้าหนี้ย่านบางเขน โดยลงชื่อกู้เงินในสัญญาเงินกู้เปล่าและถูกเปลี่ยน แปลงยอดเงินในสัญญาเงินกู้ ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งที่ได้ชำระหนี้เป็นเงินสดให้กับเจ้าหนี้ไปครบถ้วนแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานการชำระเงิน และเจ้าหนี้ไม่ยอมคืนสัญญาเงินกู้ให้ ต่อมาได้ถูกเจ้าหนี้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลเพื่อให้ชดใช้หนี้ ยึดสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและจากการสืบสวนกรณีดังกล่าว 


เบื้องต้นพบว่า เจ้าหนี้มีพฤติการณ์การปล่อยเงินกู้นอกระบบและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10-20 ต่อเดือน ในพื้นที่เขตบางเขน เขตลาดพร้าวและพื้นที่ใกล้เคียง ทำมานานกว่า 10 ปี อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเอาเปรียบลูกหนี้ ด้วยการทำสัญญากู้ยืมโดยระบุจำนวนเงินในสัญญาสูงกว่าจำนวนเงินที่ลูกหนี้ได้รับจริง คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10-20 บาทต่อเดือน และจะหักค่าปากถุงร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ และมีการคิดดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 20 บาท (ดอกลอย) คือทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวนเงิน 10,000 บาท ส่งดอกเบี้ยรายวัน วันละ 200 บาท เงินต้นไม่ลดจนกว่าจะนำเงินต้นทั้งหมดมาคืนภายในคราวเดียว และยังมีพฤติกรรมทวงหนี้โหดข่มขู่ด่าทอให้ได้รับความอับอาย รวมไปถึงการที่ลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ใกล้จะหมดหรือหมดแล้ว ก็จะชวนทะเลาะและเจ้าหนี้จะนำสัญญาเงินกู้ไปฟ้องร้องต่อศาลโดยกำหนดทุนทรัพย์เต็มจำนวนตามที่ระบุในสัญญา 

เมื่อลูกหนี้ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ในแต่ละครั้งนั้น เจ้าหนี้จะไม่ยอมทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรให้ไว้เป็นหลักฐานการชำระหนี้แก่ลูกหนี้ หรือบางกรณีเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว เจ้าหนี้จะให้ลูกหนี้นำเงินมาชำระที่บ้านของเจ้าหนี้และบอกให้ฉีกทำลายเอกสารการกู้ยืมเงิน แต่เมื่อลูกหนี้ได้ทำลายเอกสารสัญญาเงินกู้ เจ้าหนี้จะนำความดังกล่าวไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกหนี้ในข้อหาบุกรุกและทำลายเอกสารสัญญาเงินกู้ ประกอบกับแจ้งความว่าสัญญาเงินกู้หายเพื่อเป็นหลักฐานในการนำมาฟ้องร้องคดีตามสัญญาเงินกู้อีก อีกทั้งเจ้าหนี้รายนี้ทำตัวเป็นผู้อิทธิพลในพื้นที่ มีพฤติการณ์ข่มขู่และกลั่นแกล้งลูกหนี้ อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเป็นเครื่องมือในการเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ 

ลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เช่น ทหาร ตำรวจ และครอบครัว พ่อค้าแม่ค้า และบุคคลทั่วไป เป็นโจทก์ฟ้องร้องลูกหนี้ต่อศาลจำนวนมาก ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2552 จนถึงปัจจุบันประมาณ 460 คดี เป็นคดีแพ่งจำนวน  374 คดี และคดีอาญา จำนวน 86 คดี มีผู้ถูกฟ้องรวมทั้งสิ้นจำนวน 852 ราย และมีทุนทรัพย์ในการฟ้องร้องดำเนินคดีประมาณ 30,762,658 บาท มูลหนี้ตามคำพิพากษาประมาณ 24,673,492 บาท

นอกจากนี้ยังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติการณ์ของเจ้าหนี้รายนี้ปลูกบ้านพักอาศัยรุกล้ำคลองระบายน้ำ ซึ่งเป็นคลองเชื่อมต่อกับคลองหลุมไผ่ ที่เป็นคลองสาธารณประโยชน์ บริเวณหน้ากองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นได้รับความเดือดร้อน ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร) เจ้าหน้าที่ที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ มณฑลทหารราบที่ 11 ในการรังวัดสอบ เขตพื้นที่พิพาทต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]