กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – แผนช่วยผู้ปลูกปาล์มระยะยาว ดึงผลิตบี 10 บี 20 เป็นพระเอก คาดดูดซับซีพีโอ 2 ล้านตัน/ปี ขณะที่จะเข้ามาช่วยเหลือช่วงปาล์มราคาถูกมากเท่านั้น
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้รายงานต่อ ครม.ถึงการส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ ) เพื่อการใช้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (บี20,บี10,บี7 ) เป็นฐานในการดูดซับซีพีโอ โดยขณะนี้มีการใช้ประมาณ 1.5 ล้านตัน/ปี และจะเพิ่มเป็น 2 ล้านตัน/ปี สิ้นปี 2562 และหากช่วงใดผลผลิตปาล์มของเกษตรกรออกมากและราคาต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3.50 บาท/กก. ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็จะเข้ามาช่วยดูดซับเป็นครั้งคราว มาใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งตามแผนนี้ก็จะเป็นแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่ซีพีโอเพื่อการบริโภคของประเทศก็จะเหลือประมาณ 1 ล้านตัน/ปี
“จากแผนเร่งดูดซับมาใช้ภาคพลังงาน ก็เป็นส่วนที่ช่วยดึงราคาผลปาล์มดิบให้สูงขึ้น โดยราคาผลปาล์ม ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 3.30-3.50 บาท/กก. จากเดือนที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาท/กก. และซีพีโอขยับจาก 16.00 บาท/กก. มาอยู่ที่ 19.75-20.00 บาท/กก.” นายศิริ กล่าว
นายศิริ กล่าวด้วยว่า เมื่อราคาปาล์มขยับขึ้นแล้ว ดังนั้น กฟผ.ไม่จำเป็นต้องซื้อครบซีพีโอ 200,000 ตัน ตามมติ ครม.ที่ให้ซื้อเพิ่มในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยซื้อเดือนพฤษภาคมไปแล้ว 66,250 ตัน ดังนั้น ที่เหลืออีกประมาณ 130,000-140,000 ตัน จึงเป็นปริมาณที่ กฟผ.จะเข้ามารับซื้อได้ในปีนี้ หากราคาปาล์มตกต่ำลงอีก
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในส่วนของน้ำมันไบโอดีเซลพื้นฐานจะส่งเสริมบี 10 และบี 20 ซึ่งขณะนี้มีกว่า 50 แห่ง และเกือบ 600 แห่งตามลำดับ โดยยอมรับว่าส่วนต่างราคากับบี 7 ในระดับ 1 บาทและ 5 บาท/ลิตร ตามลำดับนั้น เป็นสิ่งจูงใจให้ยอดขายบี 20 สูงขึ้น ซึ่งอัตรานี้จะสิ้นสุดสิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 แล้วจะใช้มาตรการนี้ต่อหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่จะพิจารณา โดยในส่วนของบี 7 เกรดทั่วไปก็จะหมดสิ้นปี 2563 และกลายเป็นน้ำมันทางเลือกเกรดพรีเมี่ยมตั้งแต่ต้นปี 2564
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี ) เรียกร้องให้ทบทวนราคาก๊าซเอ็นจีวีที่เป็นนโยบายลอยตัวราคา โดยต้องการให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุน เหมือนการส่งเสริมบี 20,บี10 นั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า นโยบายอุดหนุนราคาเอ็นจีวีไม่ควรมีต่อไป โดยปัจจุบันมีการอุดหนุนเฉพาะรถสาธารณะ โดย บมจ.ปตท.ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ การที่ไม่ควรอุดหนุน เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยได้ส่งเสริมการใช้มา 20 ปี ในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง และก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยยังมีปริมาณสูง แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปราคาน้ำมันถูกลง ก๊าซฯ ลดน้อยลงต้องนำเข้าเช่นกัน ราคาก๊าซเอ็นจีวีจึงควรลอยตัว และที่สำคัญการอุดหนุนราคาบี 20 และบี 10 นั้น เกิดจากกองทุนน้ำมันฯ บัญชีที่มาจากผู้ใช้น้ำมันด้วยกัน ซึ่งกรณีเอ็นจีวี ไม่มีเงินจากผู้ใช้เอ็นจีวีมาอุดหนุนแต่อย่างใดและหากมีก็คงจะยาก ประกอบกับราคาน้ำมันถูกลง การใช้บี20 สำหรับรถบรรทุกทั่วไปก็จะเหมาะสมกว่า ทั้งต้นทุนราคา ค่าความร้อนและค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย
